ชมรมนักอ่าน

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

รหัสดูหนัง mthai

Phenix
sasuke
aoJvoJ
BMWBMX หรือ SRYIdfh
นี่หรือวัยรุ่น
dgtzhou5
กานต์…KARN
127
หัวxu้าบsoดกาs์ตูีน
fook
บอลหล่อจริงจริง
ball
August_kub
entertain
kimsowa
kimsowa2010
ZaMMiEz
0956
jira12345
pom
Exass
Exass
[G]oBoRizz
goborizz
—•FeliOnA•—
21639
16PM
vote
๑น้๐ Jมะอุ้E
1150
Artemis
1234 (ทุกคลิป)
atmsk8i3oarding
236
August_kub
entertain
C.B.แกะดำ
sanook
deknew_สู้ๆ
123456
GodEnelu
iwantshe
Kavza
~L~
lล่uvoJ
mannarak
Memee_Jr
0
mingywhale
mingywhale
Motochika
Motochika
motoko
190990
MrJoker
vote
mutsuaura
lordbacky
Nickture
vote
NooPutzz
vote
PhiliP Morris
mannarak
plong1975
1975
vampireez
8500
vamprieman
123456789
watachiwa1Immortal
0
WhanZaKub
whan
yongkub
ilovedb
ก้อง123
13778
น้องลิ้ม
8246
น่ารักจัง งิ
zeldaza
นู๋ไอซ์เองง่า
843667
ปฐพี49
exciting46
มันก็ยังงงอยู่เลย
pom
อุงโกะ
asasasas
บอลบ้า@เด็กผี~
i-love-man-utd
toponline
online
thomzeed
999
stoppkza11
thailandmovieupload
dreamless
00000000
tansiamcafe2
siamcafe2
Kuchibi
Kuchibi
HonGGillDonG
pom
howmoney
kD9tSA1p
fairus410
crow
Killua_TN
●●●●

กานต์…KARN
127

ป้าBEe
PABEE
งงตึบเลย
pom
gitti_A
0870
GSm_Msg_9008
aektip
งตล
pom

100 keyboard shortcuts

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ศึก 12 ราศี คาทานายดวงชะตา ปีกระต่าย 2554

ศึก 12 ราศี คาทานายดวงชะตา ปีกระต่าย 2554
ราศีพฤษภ เกิดระหว่างวันที่ 14 พ.ค.- 13 มิ.ย. ปีแห่งเคราะห์ภัยต้องระวังตัว
ราศีเมถุน เกิดระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.- 14 ก.ค. ปีแห่งการพ้นภัย ชีวิตรุ่งโรจน์
ราศีกรกฎ เกิดระหว่างวันที่ 15 ก.ค.- 16 ส.ค. ปีแห่งความรุ่งโรจน์ และมั่นคง
ราศีสิงห์ เกิดระหว่างวันที่ 17 ส.ค. - 16 ก.ย. ปีแห่งดวงชะตาพลิกฟื้น จากร้ายกลายดี
ราศีกันย์ เกิดระหว่างวันที่ 17 ก.ย. - 16 ต.ค. ปีแห่งโชคลาภและเคราะห์ภัย ที่จะเกิดขึ้นไปพร้อมๆกัน
ราศีตุลย์ เกิดระหว่างวันที่ 17 ต.ค. - 15 พ.ย. ปีแห่งการเริ่มต้นการลงทุนและสมหวังในความรัก
ราศีพิจิก เกิดระหว่างวันที่ 16 พ.ย.- 15 ธ.ค. ปีแห่งความบากบั่นพากเพียรจึงจะประสบความสาเร็จ
ราศีธนู เกิดระหว่างวันที่ 16 ธค.- 15 มค. ปีแห่งการพ้นโพทภัยจากภัยราหู ร่ารวยแบบไม่ทันตั้งตัว...ฟันธง
ราศีมังกร เกิดระหว่างวันที่ 16 มค.- 12 กพ. ปีแห่งความสาเร็จอย่างยิ่งใหญ่และเจริญก้าวหน้า...ฟันธง
ราศีกุมภ์ เกิดระหว่างวันที่ 13 กพ.- 12 มีค. ปีแห่งความร่ารวยมีโชคลาภในรอบ 18 ปี ดวงดี...ฟันธง
ราศีมีน เกิดระหว่างวันที่ 13 มีค.- 12 เมย. ปีแห่งการผกผัน ดีก็ดีสุดขั้ว ร้ายก็ร้ายจนน่ากลัว แต่มีวิธีแก้ไข...
ราศีเมษ เกิดระหว่างวันที่ 13 เม.ย.- 13 พ.ค. ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตจากร้ายกลายดี
ราศีพฤษภ เกิดระหว่างวันที่ 14 พ.ค.- 13 มิ.ย. ปีแห่งเคราะห์ภัยต้องระวังตัว
เป็นปีแห่งเคราะห์ภัย ต้องระวังตัว เหตุอย่างนี้ครับ ท่านที่เกิดในราศีพฤษภ ดีมาหลายดี รุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้า คนเราก็มีอย่างนี้แหละครับ จะรุ่งเรืองแต่เพียงฝ่ายเดียวได้อย่างไรชีวิตของคนเราก็มีขึ้นมีลง แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคุณคือ หนึ่ง ดาวพฤหัสบดี ที่เป็นตัวแทนของโชคหรือความเจริญ โคจรมาเป็นวินาศกับดวงชะตาของคนที่เกิดราศีพฤษภ ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.แปลว่าดวงชะตาเริ่มตก และแถมดาวเสาร์ ที่เป็นดาวแห่งโทษ ภัย และเคราะห์ โคจรอยู่ในมุมที่เรียกว่าร้อนใจ ทุกข์ใจ กังวลโดยไม่มีสาเหตุ และที่สาคัญ ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. ปีครึ่ง ราหูโคจรมาเล็งดวงชะตาท่านที่เกิดในราศีพฤษภ ดังนั้นดาวบาปพระเคราะห์ หรือดาวร้าย โคจรในมุมเสียดาวเสาร์ เล็งราหู ดาวพฤหัสบดี ที่เป็นดาวพระเอก ตัวช่วย ดาวตัวแทนแห่งโชคชัย โคจรในมุมดับเป็นวินาศแก่ลักขณา ตั้งแต่ 4 พ.ค. จึงเป็นจุดที่น่าเป็นห่วง น้องๆที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน งดการเที่ยวเตร่เฮฮา ต้องระวังตัว เลิกเรียนแล้วกลับบ้าน ทบทวนตารับตารา สอง ท่านที่อยู่ในวัยทางานอย่าประชดลาออก อดทน อย่าประมาท อย่าทาอะไรผิดระเบียบปฏิบัติ โดยเฉพาะราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ ใครคิดจะลงทุนทาการค้า ระงับยับยั้ง รอจังหวะเวลา ยังไม่ถึงเวลาของเรา ในเรื่องราวของความรัก ก็มีเกณฑ์พลัดพราก ไม่ว่าเขาจะจากไปด้วยการไปเรียน เรียนต่อแล้วเขาห่างไกลจากเราไป หรือเขาจะเลิกจากเรา หรือมีคนเข้ามาแล้วล่อลวง หลอกลวง ให้คุณเสียอกเสียใจ หนทางแก้ไข ทาดังนี้ ให้หาโอกาสไปปฏิบัติธรรมเป็นระยะ หาโอกาสสร้างพระใหญ่ มีสร้างพระพุทธรูปที่ไหน ไปร่วมพิธี ไปร่วมสร้าง การสักการะพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ ไปไหว้หลวงพ่อพุทธมงคล วัดแค จ.สุพรรณบุรี ไปกราบไปไหว้ หมอชีวกโกมารภัจจ์ วัดลอยเคราะห์ จ.เชียงใหม่ จะได้หมดเคราะห์หมดภัย สิ่งมงคลที่ควรบูชาและแขวนไว้ประจาตัว 1. หลวงปู่ทวด เดินทางไปไหนจะได้แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ 2.ท้าวเวสสุวรรณ ภูติผีปีศาจที่จะล่อหลวงหลอกลวงทาอันตรายไม่ได้ 3. จะเจ็บไข้ได้ป่วย มีหมอชีวกโกมารภัจจ์ แขวนประจาตัว 4. หาเงินยาก มีพระเศรษฐีนวโกฎิ ไว้ประจาตัว 5.ไปไหนไม่มีใครรัก หาพระขุนแผน วัดแค จ.สุพรรณบุรี ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ผมให้กาลังใจ สู้ในครานี้ ใจจะเป็นปราการสาคัญ ผ่านพ้นปีนี้ไปได้ ปีหน้ารวย ฟันธง!
ราศีเมถุน เกิดระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.- 14 ก.ค. ปีแห่งการพ้นภัย ชีวิตรุ่งโรจน์
เป็นปีการการพ้นภัย ชีวิตรุ่งโรจน ฟันธง! ฟังแล้วชื่นใจ เมื่อปีที่ผ่านมาดีบ้าง ร้ายบ้าง สลับกันและมักจะมีปัญหาหลายอย่างหลายประการ เพราะราหูเล็งดวงชะตา แต่พอเข้าปี 2554 และโดยเฉพาะหลังจากวันที่ 24 พ.ค. ราหูที่เป็นโทษและภัย และดาวบาปเคราะห์ที่เล็งนั้นจะโคจรเข้ามุมอับทาอันตรายอันใดแก่ชาวราศีเมถุนมิได้ จึงเป็นปีแห่งการพ้นภัย ชีวิตรุ่งโรจน์ จากการที่มีดาวพฤหัสบดี อันเป็นตัวแทนโชค ความสาเร็จ ความเจริญ โคจรอยู่ในเรือนลาภะ มีตาแหน่งเป็นราชาโชค อุปโลภดุจพระราชา แผ่บารมีคุ้มครอง เพราะฉะนั้นเมื่อรู้ว่าดวงชะตาจะพ้นภัยให้ตั้งสติ แล้วต้องมีหลัก 4 ประการ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา มีความพึงพอใจในสิ่งที่จะทาต่อไปนี้ 1.ตั้งใจเรียน 2.ตั้งใจทางาน 3.กล้าที่จะลงทุน ขยับ ขยาย อย่างงอมืองอเท้า เพราะเป็นปีของท่าน แม้ว่าดวงดี นอนรอ ไม่เกิดอะไรเลย เรื่องความรักที่มีปัญหา หรือมีเรื่องทุกข์ใจมาปีครึ่ง หลังจาก 24 พ.ค. ชื่นมื่น สมหวัง สมปรารถนา มีความสุขใจ สบายใจ ที่ผ่านมาคุณอาจจะเจอคนมาล่อลวง ให้หลงตายใจ จากนี้เป็นต้นไป จะเจอคนที่ใช่ มากกว่าไม่ใช่ แล้วจะไม่มีอะไรมาหลอกลวงคุณได้ เพราะคุณจะแข็งแกร่ง เงินทองก็จะใหลมาเทมา ทาอะไรก็จะเป็นเงินเป็นทอง ที่ทาหนักขนาดนี้ แล้วได้แค่นี้ จะเป็นหนักเท่าเดิม แต่ได้มาก สิ่งที่ควรจะบูชา เป็นมหามงคลเมื่อดวงกาลังดี ชาวราศีเมถุนเป็นธรรมเนียมเลย ปีนี้ไปไหว้หลวงพ่อพระนอน ที่วัดสามพระยา อยู่ใกล้วังบางขุนพรหม และไปไหว้พระนอน ที่วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง จะมีบารมีของเทวดา ช่วยคุ้มครองให้ท่านโชคดี เจริญรุ่งเรือง และที่สาคัญเทพเจ้าแห่งความสาเร็จ พระพิฆเนศวร์วิเศษลาภา องค์ที่ศักดิ์สิทธิ์ในปีนี้และมีกาลังสาคัญที่สุด คือ พระพิฆเนศวร์เป็นศาลพระหลักเมือง อยู่ที่ตลาดพระประแดง จ.สมุทรปราการ นี่คือสิ่งที่ท่านต้องไปกราบสักการะ บูชาประจาปี ถ้าแขวนติดตัวประจาตัว ก็มี 1.พระพิฆเนศวร์สร้างในพิธีศักดิ์สิทธิ์ วัดใดก็ได้ 2. พระตรีมูรติ แขวนประจาตัว ชีวิตกาลังรุ่งเรือง 3. พระเศรษฐีนวโกฎิ กาลังรวย จะได้รวยสมใจ นี่คือสิ่งที่จะกระทุ้งดวงให้สมปรารถนา ขอให้ท่านที่เกิดราศีเมถุน โชคดีตามดวงชะตาที่เป็นไป ฟันธง!
ราศีกรกฎ เกิดระหว่างวันที่ 15 ก.ค.- 16 ส.ค. ปีแห่งความรุ่งโรจน์ และมั่นคง
ปีนี้เป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ และมั่นคง ฟันธง! ชาวราศีกรกฎในปีที่ผ่านมา หนึ่งเจออุบัติเหตุ สองผ่าตัด เพราะว่าท่านที่เกิดในราศีกรกฎ 51-52 ราหูเล็งดวงชะตา แล้วหลังจากนั้นราหูมาเป็นอริ แปลว่าตั้งแต่ปี 2551 มาจนถึง 2553 ราศีกรกฎเจอกรรมเก่า แต่ในปี 2554 ท่านที่เกิดในราศีกรกฎดวงชะตาจะดี และดีตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. และพอเข้าเดือน ม.ค.ยิ่งดี เข้าพ.ค.ดีมาก เพราะดาวพฤหัสบดี ซึ่งเป็นดาวตัวแทนโชค ลาภ และความสาเร็จ โคจรไปได้ตาแหน่งเป็นราชาโชคในภพกรรมะ แปลว่างานนั้นจะยิ่งใหญ่ประสบสาเร็จ มีความเจริญ ท่านที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียนจะอ่านจะเขียน จะเรียนอะไร สอบผ่าน ฟันธง! หรือใครก็ตามที อยู่ในวัยทางาน ทางานด้วยความตั้งใจ ใน 2 ปีที่ผ่านมา ถูกมองข้ามถูกมองผ่าน แต่ในปีนี้ถึงเวลาที่จะได้ขั้น ได้ตาแหน่ง เลื่อนทั้งเงินเดือน ทั้งตาแหน่ง ฟันธง! ใครก็ตามใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ลงทุนทาการค้าอะไรก็ตามที ฝืดเคือง อึดอัด ทุกข์ใจ หมุนเงินตัวเป็นเกลียว พอเข้าปี 2554 เงินทองไหลมาเทมา จนเก็บแทบไม่หวาดไม่ไหวถึงขนาดตั้งตัว ความรักก็จะมีความสุข คนรักก็จะเข้าใจ ที่คนรักขี้บ่น เรื่องเยอะ ปีนี้คู่รักสงบปากสงบคา ใครที่เป็นโสดจะเจอคู่แท้ และเอามาช่วยในการงานให้รุ่งเรือง แปลว่าได้ทั้งรัก ได้ทั้งมาช่วยงาน โอ้โห สองต่อ อุบัติเหตุ แคล้วคลาด เมื่อเป็นมงคลอย่างนี้ ชาวกรกฎ ควรจะไปทาบุญเพื่อเสริมดวงชะตาให้ดีสมใจ 1.ควรไปไหว้พระนอน ที่วัดป่าโมก ก่อนที่องค์พระเนศวรจะมีชัยชนะ ต่อมหาอุปราชา ได้กราบสักการะขอพระพรจากหลวงพ่อพระนอน วัดป่าโมก 2. ถ้าอยากจะยิ่งใหญ่ ใหญ่โต เจริญรุ่งเรือง ไปไหว้หลวงพ่อโต ทั้งวัดพนัญเชิง อยุธยา และวัดกัลยาณมิตร ที่กรุงเทพฯ แล้วสิ่งที่ท่านควรบูชาไว้ประจาตัว ประจาตนเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล 1. พระกริ่ง ที่ควรมีไว้บูชาประจาตัว พระกริ่งที่เป็นมงคล คือ พระกริ่งพระปริตร วัดสามพระยา พระกริ่งพุทโธ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ของวัดอาวุธวิกสิตาราม 2. เหรียญพระเศรษฐีนวโกฎิ จะได้รุ่งโรจน์ รวยสมใจ และควรจะมีเทวดาพระจันทร์หรือไปร่วมพิธีขอเงินจากพระจันทร์ทุกเดือนในวันขอเงินจากพระจันทร์ ปีนี้เป็นปีรุ่งโรจน์ของท่าน ขอให้ท่านเจริญรุ่งเรืองสมหวัง สมปรารถนาทุกประการ ฟันธง!
ราศีสิงห์ เกิดระหว่างวันที่ 17 ส.ค. - 16 ก.ย. ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง จากร้ายกลายดี
ปีนี้เป็นปีที่จะเปลี่ยนแปลงจากร้ายกลายดี ฟันธง! ฟังอย่างนี้แล้วมันมีกาลังใจ ท่านที่เกิดในราศีสิงห์ มีดาวที่เกี่ยวกับโชคลาภและความสาเร็จคือดาวพฤหัสบดี ดาวดวงนี้โคจรเข้ามุมอับเป็นมรณะกับท่านที่เกิดในราศีสิงห์ ทุกข์อก ทุกข์ใจ ไม่สมหวัง สมปราถนา ทาอะไรก็ผิด เกิดขึ้นกับท่านตั้งแต่ 26 เมษายน 2553 ชาวราศีสิงห์ ทาอะไรที่จะถูกก็ผิด ทาดีก็ถูกมองผ่าน ทาไม่ดีก็ถูกจับผิดและปรักปราเลย ชาวราศีสิงห์ ไม่สบายอกสบายใจ จะอ่านจะเขียนจะเรียนอะไรก็ผิดหวัง จากนี้อย่านอนใจ ยังต้องระมัดระวังตัว ดีเมื่อไหร่ 4 พฤษภาคม เป็นต้นไป และที่สาคัญเรื่องการงาน ประคับประครองเอาไว้ อย่ากลัวให้รู้ไว้หลัง 4 พฤษภาคม ดวงเรื่องการงาน ดี ฟันธง ใครที่ตกงานจะได้งาน ใครที่การงานไม่รุ่งโรจน์ ไม่เจริญก้าวหน้า เมษา ข้าราชการเปลี่ยนแปลงปรับเปลี่ยนตาแหน่ง ยังไม่ได้ ไม่เป็นไร กันยา-ตุลา จะดีเพราะดวงชะตาดีตั้งแต่พฤษภา เพราะฉะนั้น รอไว้ยังไงก็ดี ใครที่คิดจะลงทุนทาการค้า ก่อน 4 พฤษภา อย่าแตะอย่าต้อง หลัง 4 พฤษภา ลุย แล้วสาเร็จ ฟันธง เงินทองไหลมาเทมา ฟังธง ถึงไม่ขนาดเป็นกอบเป็นกา เงินถุงเงินถัง แต่มีให้ใช้ไม่ขาดมือ โรคภัยไข้เจ็บ ก่อน 4 พฤษภาคม ก็มีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วย หลายอย่างหลายประการ ส่วนเรื่องของความรัก ที่ผ่านมาผิดหวัง หรือคนรักป่วย คนรักเป็นทุกข์เพราะเรา หลังจาก 4 พฤษภาคมเป็นต้นไป ความรักชื่นมื่นสดใส คู่รักคนรักหายป่วยหายไข้ มีความสุขความเจริญ นี่เป็นจุดของการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตจริงๆนะครับ ปีนี้สิ่งที่จะเป็นมงคล 1.หมอชีวกโกมารภัจจ์ วัดลอยเคราะห์ จ.เชียงใหม่ 2.หลวงพ่อพระพุทธมงคลสรรเพ็ชญ์ จ.ลพบุรี เคราะห์และภัยที่มีอยุ่ก็จะหมดไป อย่าลืมไปไหว้เจ้าพ่อพระกาฬด้วย และที่สาคัญหาโอกาสไปไหว้พระพรหม ที่ใดก็ได้ ถ้าจะแขวนพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจาตัว 1. เหรียญพระพรหม 2. เหรียญพระแก้วมรกต หรือหลวงพ่อพระทองคา เหรียญเทวดาพฤหัสบดีทรงกวางทอง และเหรียญหมอชีวกโกมารภัจจ์ ขอให้ชาวราศีสิงห์สู้แล้วจะมีชัยชนะ หลัง 4 พฤษภาคม ฟันธงครับ
ราศีกันย์ เกิดระหว่างวันที่ 17 ก.ย. - 16 ต.ค. ปีแห่งดวงร้ายมากกว่าดี
ดวงออกในทางร้ายมากกว่าดี ชาวราศีกันย์ต้องระมัดระวังตัว ปี 2554 ดวงชะตาจะดีบ้างตั้งแต่มกราคม จนถึงพฤษภาคม วันที่ 4 ดาวพฤหัสบดีที่โคจรเล็งคนราศีกันย์เดินหน้าอย่างรวดเร็ว มีโอกาสเจอคนรัก คนรู้ใจ ประสบความสาเร็จในการงาน มีโอกาสได้เงินได้ทองก้อนโต มีโอกาสได้โชคลาภจากการเสี่ยงหรือทาอะไรก็ประสบความสาเร็จ แต่พอพ้นวันที่ 4 พฤษภาคมเป็นต้นไป ดาวพฤหัสบดีที่เป็นดาวตัวแทนของโชคลาภ และความสาเร็จที่ให้คุณกับคนที่เกิดในราศีกันย์ โคจรเป็นมรณะ เรียกว่าพินฑุบาต แปลว่า คิดผิด ทาผิด ได้ข้อมูลผิดพลาด ชาวราศีกันย์จะทาอะไรหลังจาก 4 พฤษภาคม งด หยุด ตรองให้ดี ดังนั้น น้องๆ หนูๆ ที่อยุ่ในวัยเรียน ถ้ามีเกณฑ์การสอบ การเขียน การเรียน ก่อน 4 พฤษภาคม สาเร็จ ฟันธงครับ หลัง 4 พฤษภาคม มีปัญหา ส่วนท่านที่อยุ่ในวัยทางาน ผมบอกได้เลยว่าดวงชะตาของท่าน ตกไปจนถึงปลายปี เพราะดาวเสาร์ที่ว่านี้จะโคจรทับราศีกันย์จนถึงวันที่ 7 ธันวาคม แปลว่าดาวโชคลาภ และดาวแห่งความโชคดี โคจรอยุ่ในมุมอับ ตั้งแต่ 4 พฤษภา ไปจนถึงปีหน้า 2555 แล้วดาวบาปพระเคราะห์หรือดาวร้าย โคจรอยู่กับท่านจนถึงเมื่อไหร่ 7 ธันวาคมปีนี้ แปลว่าช่วงปลายเดือนธันวาคมสั้นๆ ยังโชคดีรอบสุดท้าย แปลว่าชาวราศีกันย์ จะมีโอกาสได้เงินได้ทองได้ความมั่นคง หลังจากทุกข์ระทม หลังจากวันที่ 4 พฤษภาคม ไปจนถึงวันที่ 6 ธันวาคม ช่วงนั้นล่ะครับไม่ควรลาออกจากงาน ไม่ควรลงทุน กิจกรรมอะไรก็ตามที อย่าประมาท ไม่ให้ใครหยิบยืมสตางค์ต้องระมัดระวัง ในปี 2554 อย่าลงเอยในเรื่องของความรักกับใครเพราะท่านจะตัดสินใจผิดพลาดใครเข้ามาจะมีภาพลวงตาที่ท่านไม่รู้อะไรอีกหลายอย่างแล้วเรื่องที่ไม่รู้เป็นเรื่องที่นรกสาหรับการดารงอยุ่ในชีวิตคู่เลยนะครับ นี่คือสิ่งที่เสริมมงคลเพื่อแก้วิกฤตหรือเผชิญวิกฤต 1.หาโอกาสไปกราบไหว้หลวงพ่อพระพุทธมงคลสรรเพ็ชญ์ ที่วัดป่าธรรมโสภณ จ.ลพบุรี และไปกราบไหว้หลวงพ่อโต วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี ยังมีหลวงพ่อนั่ง อุ้มบาตรเพื่อให้เกิดโชคลาภ ที่วัดสามพระยา ที่บางขุนพรหม กทม. โรคภัยไข้เจ็บอาจจะเกิดขึ้นกับท่านไม่ได้ ปีนี้ต้องระมัดระวังโดยเฉพาะโรคกรรมเก่าและเรื้อรัง ปีนี้ควรไปกราบไหว้หมอชีวกโกมารภัจจ์ ทั้งที่โรงพยาบาลสงฆ์ และที่ วัดลอยเคราะห์ จ.เชียงใหม่ ไปไหว้พระพิฆเนศวร เทพเจ้าแห่งความสาเร็จ เพราะเทพเจ้าองค์นี้เป็นเทพเจ้าประจาตัวประจาราศีชาวราศีกันย์ ส่วนมงคลที่แขวนประจาตัวไว้ติดตัวคือ เหรียญหมอชีวกโกมารภัจจ์ ท้าวเวสสุวรรณคุ้มกันภัย และพระพิฆเนศวร์ เทพเจ้าแห่งความสาเร็จ ภัยที่มีอยุ่จะมลายหายไปด้วยบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้คุ้มครอง ปีนี้อดทนชดใช้กรรมเก่า ปี 2555 ดวงชะตาจะดีกว่านี้ ขอให้ท่านโชคดีพ้นโภทภัยและได้อะไรดีๆ ในช่วงปลายธันวาคมปีนี้ ฟันธงครับ
ราศีตุลย์ เกิดระหว่างวันที่ 17 ต.ค. - 15 พ.ย. ปีแห่งการเริ่มต้นการลงทุนและสมหวังในความรัก
เป็นปีแห่งการเริ่มต้นและการลงทุนรวมทั้งสมหวังในความรักเป็นปีที่น่าสนใจครับ ปีที่ผ่านมาดีบ้างร้ายบ้างสลับกันไป แต่ประเด็นสาคัญเลย ในปี 2554 ดาวพฤหัสบดี ที่โคจรมาเล็งดวงชะตาตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคมเป็นต้นไป และโดยเฉพาะหลังวันที่ 7 ธันวาคมในช่วงปลายปี ดาวเสาร์ก็โคจรมาทับจุดเกิดของท่านที่เกิดในราศีตุลย์ ถือว่าเป็นจังหวะเวลาที่มีการเริ่มต้น ลงทุนในโครงการใหญ่ มีพันธะสัญญา มีผู้ร่วมหุ้น ร่วมชีวิต เปลี่ยนธุรกิจเปลี่ยนการค้า เปลี่ยนงาน โยกย้ายเปลี่ยนแปลง แล้วสาเร็จขึ้น เจริญขึ้นแต่เหนื่อยครับ แต่ประเด็นสาคัญคือจะสมหวังในความรักจะเจอคุ่แท้ ใครที่มีครอบครัวแล้ว มีสิทธิ์มีบุตร ใครที่ยังไม่มีครอบครัว มีสิทธิ์เจอคู่แท้ที่สมหวัง สมปรารถนาในความรัก ฟันธงครับ ปี 2554 เห็นได้ชัดเจนว่า ดาวการเงินโคจรเป็นจังหวะ จะโคนตั้งแต่ต้นปี แปลว่าท่านที่เกิดในราศีตุลย์ มีโอกาสที่จะได้เงินหมุนให้ได้ใช้อย่างมั่นคงตลอดทั้งปี 2554 ฟันธงครับ เรื่องของการเงินดีตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปี เรื่องของความรักก็มีความสุข แต่สุขภาพของท่านที่เกิดในราศีตุลย์ ย่าแย่ต้องเฝ้าดูแลสุขภาพให้ดี ต้องออกกาลังกาย ต้องตรวจร่างกายเป็นระยะครับ และประเด็นสาคัญท่านที่เกิดในราศีตุลย์ จะต้องขยัน กล้าคิด กล้าตัดสินใจ และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต อย่าติดอยู่กับสิ่งเดิม แล้วชีวิตคุณจะรุ่งโรจน์สมปรารถนาครับ สิ่งที่เป็นมงคลไปกราบไหว้สักการะเพื่อเสริมราศีประจาปี ดาวเสาร์จะโคจรทับจุดเกิดเป็นมหาอุตร ในรอบ 30 ปี ดังนั้นแปลว่าเป็นรอบแห่งการตั้งหลัก และรับภาระใหญ่ ต้องไปกราบสักการะพระพุทธรูปปางนาคปรก ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน จุดธูปบูชา 10 ดอก เทียน 10 เล่มเป็นกาลังของพระเสาร์จะทาให้ท่านมั่นคง ไปกราบไหว้พระพุทธมหาเศรษฐีนวโกฎิ เป็นมหามงคลจะทาให้ตั้งหลักได้ในปีนี้ ถ้าดาวการเงินท่านเด่นต้องไหว้พระเศรษฐี และที่สาคัญควรมีพระพิฆเนศวร์ไว้คุ้มครองไว้แขวนคอไว้เหน็บกระเป๋า หรือไว้บูชาในที่ทางาน องค์เล็ก องค์ใหญ่ เป็นองค์ลอย องค์เหรียญได้ทั้งนั้น จะเป็นมหามงคลประจาปีนี้ครับ
ราศีพิจิก เกิดระหว่างวันที่ 16 พ.ย.- 15 ธ.ค. ปีแห่งความบากบั่นพากเพียรจึงจะประสบความสาเร็จ
เป็นปีที่ต้องใช้การบากบั่นความพากเพียร ความวิริยะอุตสาหะ แล้วท่านจะประสบความสาเร็จ มีโชค 2 ชั้น ฟันธง ปี 2554 เป็นปีทองที่ตั้งแต่ต้นปี 31 มกราคมเป็นต้นไป ดาวประจาตัวจะเดินหน้าขยับอย่างเป็นจังหวะจะโคนอย่างมีกาลัง และหลังจากวันที่ 4 พฤษภา ดาวการเงินจะโคจรอยู่ในมุมที่ก่อร่างสร้างตัว ด้วยความขยันเงินทองจะไหลมาเทมา เพราะดาวการเงินเป็นราชาโชค หลังจากวันที่ 25 พฤษภา ราหูก็จะโคจรพ้นจากเรือนการเงินที่ทาให้เสียเงินเรียกราหูพ้นทรัพย์ โคจรมาทับราศีเกิด ปกติถ้าราหูโคจรทับราศีเกิดของใคร คนนั้นป่วยเจ็บแทบเป็นแทบตาย แต่เป็นข้อดีครับ มีตาแหน่งเป็นมหาอุตร ต้องรออีก 18 ปี จึงจะเป็นอย่างนี้ แปลว่าท่านที่เกิดในราศีพิจิก มีสิทธิ์เปลี่ยนบ้าน ย้ายบ้าน เปลี่ยนงาน เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนจากโสดมามีครอบครัว เปลี่ยนแปลงทุกอย่างแล้วจะดีครับ ขอให้มีความขยัน บากบั่น ตั้งใจ เป็นจุดก่อร่างสร้างตัว ที่ฟ้าเปิดโอกาสให้สาเร็จ ฟันธงครับ เพราะฉะนั้นราหูก็ทับราศีจะต้องทายังไงจึงจะรุ่งโรจน์ 1.ควรหาโอกาสไปกราบไหว้เจ้าพ่อพระกาฬ ที่จ.ลพบุรี หรือถ้ามีโอกาสร่วมสร้าง พระราหูเต็มองค์ทรงครุฑ ที่วัดป่าธรรมโสภณ จ.ลพบุรี ตั้งแต่ต้นปี ท่านสามารถไปร่วมเขียนแผ่นทอง ร่วมสร้าง และกราบสักการะองค์จาลองได้เลย จะเป็นมหามงคล ราหูจะคุ้มครอบ พิทักษ์รักษาและประทานแก้วแหวนเงินทองให้ท่านมามีโชคมีชัย 3.ให้ท่านหาโอกาสย้ายบ้าน จัดบ้านใหม่ ย้ายห้องนอน ก็จะเป็นมหามงคลอย่างหนึ่งของชีวิต ประการสาคัญไปดูแลบ้านเรือนที่อยุ่อาศัยของคุณพ่อคุณแม่ ถ้ามันจะต้องซ่อมหรือมีปัญหาอะไรก็ซ่อมให้ท่าน ซ่อมที่อยู่อาศัยให้บิดามารดรแล้วไซร้ มั่นคง 4. ท่านที่กลัวราหูจะทาร้าย หรือทาลายชีวิต หรือกลัวเรื่องปัญหาสุขภาพ หรือกลัวว่าราหูเข้าแล้วจะมีภัย หาโอกาสไปร่วมงานในวันพระราหูย้าย 24 พฤษภา ไปร่วมงานไหว้พระราหูที่วัดไตรมิตร และที่สาคัญไหว้หลวงพ่อนั่ง หลวงพ่อนอน วัดสามพระยา สิ่งที่ควรจะมีไว้บูชา 1.เหรียญจตุคามรามเทพที่มีรูปราหูอยู่ในองค์จตุคาม ยิ่งหาจากวัดต่างๆ ที่แจกฟรี ยิ่งเป็นมงคล 2. หาเหรียญเทวดาพระราหู โดยเฉพาะจากวัดป่าธรรมโสภณ จากจ.ลพบุรี อีกอย่างคือเหรียญหลวงพ่อนั่งหลวงพ่อนอนของวัดสามพระยา ถ้าท่านได้ปฏิบัติ และมีสิ่งมงคลเหล่านี้ไว้คุ้มครองตัว ปี 2554 จะเป็นปีทองของท่าน ฟันธงครับ
ราศีธนู เกิดระหว่างวันที่ 16 ธค.- 15 มค. ปีแห่งการพ้นโพทภัยจากภัยราหู ปีแห่งการร่ารวยแบบไม่ทันตั้งตัว...ฟันธง
ในปี 2553 ปีที่ผ่านมา ราหูโคจรทับจุดเกิด ดวงถึงตาย ดวงเจ็บปวด ทุกข์ร้อน ย้ายบ้าน เลิกกับแฟน เสียงานเสียการ
เสียตาแหน่ง ถูกดูถูกดูหมิ่น เป็นปีทีมีเคราะห์มีโรคมีภัย ปี 2554 ชาวราศีธนู จะพ้นทุกข์ร้ายภัยเวร ไม่ได้พ้นอย่างเดียว จะต้องมีบุญราศี เพิ่มให้เป็นมงคล เหมือนโบราณกาลก่อน ท่านจะได้รับความเป็ฯศิริมงคลจากการไหว้พระด้วยประการหนึ่ง ในวิหารหลวงพ่อพระนั่ง วัดสามพระยา ศักดิสิทธิ์นัก คือพระปางป่าเรไร แต่แปลกนะครับอุ้มบาตร มีกินมีใช้ แต่ถ้าใครที่รู้จักวางแผนชีวิตให้ดี รู้ชะตาและมากราบไหว้ ตามข้อแนะนาต่อไปนี้ ท่านจะมีแต่ความร่ารวยประสบความสาเร็จ ตลอดปี 54 ฟันธง ใครอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน ต้นปีต้นลดการเที่ยวเตร่เฮฮา งดการคบเพื่อนฝูงที่เป็นนักเที่ยว ต้องเก็บเนื้ออ่านตาราเตรียมสอบ แม้จะมีเรื่องผิดหวังในช่วงต้นปี แต่หลังจาก 24 พค เป็นต้นไป ชีวิตพ้นโพทภัย ฟันธง ต้นปีน้องๆ หนู ต้องตั้งใจเรียนให้มาก และใครก็ตามที ที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน เรียนแล้วมีปัญหาเรียนแล้วไม่เข้าใจ อึดอัด ทุกข์ใจไม่รู้จะทาอย่างไร กลัวสอบเอ็นทรานซ์ไม่ผ่าน มากราบสักการะหลวงพ่อนั่ง ที่วัดสามพระยา จะเป็นบุญรักษาให้พ้นโพทภัย ฟันธง ส่วนใครที่อยู่ในวัยทางาน ที่ผ่านมาถูกใส่ร้ายใส่ความตกงาน ทุกข์ใจ จะรุ่งก็ไม่รุ่ง เจริญก้าวหน้าก็ไม่เจริญ มีปัญหามาตลอด ปี 2554 ถ้าหากว่าท่านไม่รู้จักที่จะมาไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านจะทุกข์อย่างนี้ไปจนถึง 24 พค หลังจากนั้นดวงชะตาจะค่อยเปิด ใครที่เกิดราศีธนู หรือใครที่ไม่ได้เกิดราศีธนูเลย แต่มีทุกข์มีภัย การงานไม่เจริญรุ่งเรือง มีปัญหา แล้วมากราบไว้ หลวงพ่อพระนั่ง ที่วัดสามพระยา ก็จะปัดเป่าทุกข์ร้ายให้หมดไป เพราะฉะนั้นการงาน ในปี 2554 ใครที่เกิดราศีธนู จะมีเกณฑ์มีปัญหาเรืองการงาน หลังจาก 24 พค ใครตกงานมีเกณฑ์ได้งาน ฟันธงครับ ใครก็ตามที เป็นลูกจ้างในองค์กรหน่วยงาน งานการไม่ขยับขยายไม่รุ่ง เรือง เจริญก้าวหน้า หลัง 24 พค รุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้า ฟันธงครับ ใครเป็นข้าราชการ ถูกเจ้านายมองข้ามมองผ่านไป อึดอัดทุกข์ใจ ตาแหน่งไม่เลื่อน ยศตาแหน่งบารมีไม่ปรากฎ มาไหว้หลวงพ่อพระนั่ง องค์นี้ ยศตาแหน่งเลื่อนด้วยหลวงพ่อพระนั่ง ท่านทั้งหลายที่อยู่ในวัยทางานและเป็นข้าราชการ หลัง 24 พค ชีวิตรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้าเป็นบุญราศีให้สมปรารถนา ขอให้หาโอกาสมากราบไหว้พระให้เสริมราศีที่ผมได้แนะนา ที่สาคัญใครเป็นพ่อค้านักธุรกิจ ตั้งแต่ต้นปี ถึง พฤษภา อย่าลงทุน ประคับประคองไปก่อน แล้วมาไหว้หลวงพ่อพระนั่งที่วัดสามพระยา แล้วก็หาเหรียญหลวงพ่อพระนั่งแขวนคอ นั่งดู มีเทวดาคอยเฝ้าคอยรักษา พอพ้น 24 พค เทวดาบรรดาดลให้เกิดศิริมงมล สาคัญรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้า ลงทุนไปแล้วรวย ฟังธง เรื่องหน้าที่การงาน ครึ่งปีหลังดี ครึ่งปีแรกระวัง ส่วนการเงินดวงชะตา เห็นได้ชัดเจนว่า ปี 2554 มีเกณฑ์เริ่มต้นรวย และ รวยแบบค่อยเป็นค่อยไป ปี 2555 – 56 รวยมาก มั่นคงมาก แต่คุณต้องทาอย่างนี้ 1. ปีนี้ต้องหาโอกาสมากราบไหว้หลวงพ่อพระนั่ง ที่วัดสามพระยา 2. หาเหรียญหลวงพ่อพระนั่งวัดสามพระยา แขวนตัวแขวนคอคุ้มครองตน จะอานวยผลให้มั่นคง ถ้าไม่ทาอย่างนี้ตัวเองสู้กรรมแต่เพียงลาพังไหวหรือ นี่เพียงแต่ความหมาย เพราะฉะนั้น ปี 2554 มีหนี้สินก็จะหมดไปและมีโอกาสรวยแบบไม่ทันตั้งตัว สมใจปรารถนา แบบไม่ทันตั้งตัว ฟันธงครับ เรื่องความรักคนที่เกิดราศีธนูนั้น ถ้าเลิกกับใครอย่าเสียใจ แบบว่ามันไม่ใช่คู่เรามันจบไปแล้ว และ จะมีคนใหม่ผ่านเข้ามาเพราะฉะนั้น จะมีโอกาสเจอคู่รัก คู่รักของท่านนั้นเป็นคนช่างพูดช่างเจรจา ถ้าใครเป็นคนที่ปากไม่ค่อยพูดไม่ใช่คู่แท้ ถ้าเป็นคนที่ช่างพูดช่างเอาอกเอาใจ อยู่แล้วสบายใจและที่สาคัญ จะมีโอกาสลงเอยในความรักสาหรับคนโสด ตั้งแต่ 24 พค เป็นต้นไป ฟันธงครับ แปลว่าใครที่มีครอบครัวแล้วก็จะมีบุตรไว้สืบวงศ์ตระกูล สมหวังสมปรารถนา มีความสุขกับชีวิตคู่ครับ แปลว่าถ้ายังคบกันอยู่แล้วไม่เลิกจากกันนั่นแหละคู่แท้ แต่ถ้าเลิกจาก
กันแล้วจบกันไปแล้ว เพราะปีนี้ราหูจะให้จบกันเพราะไม่ใช่คู่แท้ ส่วนเรื่องสุขภาพ ปีนี้ จะมีปัญหา ตั้งแต่ต้นปี ถึง 24 พค จะเจ็บป่วย ด้วยโรคเวรโรคกรรมต้องหาโอกาสมาสวดมนต์ไหว้พระที่วัดสามพระยาเช่นเดียวกัน จะเป็นมหามงคล ระวังอุบัติเหตุเกิดแบบไม่คาดฝัน ที่จะป้องกันคุ้มครองให้อุบัติเหตุแบบไม่คาดฝันผ่านไป 1. หาโอกาสมากราบไหว้หลวงพ่อพระนั่ง 2. ไปกราบไหว้หลวงพ่อพระนั่งที่วัดป่าเรไรย์หลวงพ่อโต นั่งเหมือนกันนั่นแหละครับ จะทาให้พ้นโพทภัย 3. ไปกราบไหว้หมอชีวกโกมารทัต ที่วัดพระแก้ว ด้านหลังพระอุโบสก หรือที่วัดลอยเคราะห์ จ.เชียงใหม่ และทื่สาคัญอยากรวยสมใจไปกราบไหว้พระพุทธมหาเศรษฐีนฤโกฏิ จะเป็นมหามงคล พญานาคแหวนพญานาค หรืออะไรก็ตามที่มีรูปพญานาคจะเป็นมหามงคลคุ้มครอง ให้คุณมีความสุขความเจริญ
ราศีมังกร เกิดระหว่างวันที่ 16 มค.- 12 กพ. ปีแห่งความสาเร็จอย่างยิ่งใหญ่และเจริญก้าวหน้า...ฟันธง
ดวงชะตาท่านที่เกิดราศีมังกร ประจาปี 2554 ท่านที่เกิดราศีมังกร ถือว่าเป็นหนึ่งใน 4 ราศี ที่มีความยิ่งใหญ่ เพราะมีดาวประจาตัวคือดาวเสาร์ คุณที่เกิดในวัดอะไรก็ตามที คุณจะมีเทวดาประจาตัว เทวดาประจาวัดเกิดนั่นแหละ เทวดาของชาวราศีมังกร คือ เทวดาพระเสาร์ครับ เทวดาพระเสาร์เป็นเทวดาที่ ทรงเสือหรือทรงพยัคฆ์ ส่วนพระพุทธรูปท่านที่เกิดราศีมังกรคือ พระพุทธรูปปางนาคปรก สร้างไว้ทั้งหมด 9 องค์ทั่วประเทศ เพื่อไว้คุ้มครองประเทศชาติ ศาสนา องค์พระมหากษัตริย์ หลายปีที่ผ่านมาผมแนะนาให้คนมากราบไหว้ ท่านที่ต้องการการปกป้องคุ้มครองความมั่งคง ท่านที่มาที่ศาลหลักเมือง แล้วมาที่หอพระจะต้องมากราบไหว้ พระปางนาคาปรกองค์นี้ครับ สาคัญนัก ท่านต้องหาโอกาสมากราบไหว้จึงจะเป็นมงคล รวมทั้งที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ปีนี้ทั้งสองแห่งนี้เป็นมหามงคล สาคัญชาวราศีมังกรที่ยิ่งใหญ่ การเรียน ในปี 2554 น้องหนู จะเรียกต่อประสบความสาเร็จ เรื่องยากจะเป็นเรื่องง่าย ครูบาอาจารย์จะสนอกสนใจ เพื่อนฝูงก็จะดี สอบเรียนต่อได้ ประสบความสาเร็จ เอ็นทรานซ์ได้สมความปรารถนา อันนี้ฟันธงครับ การงาน ปี 2554 เป็นปีที่โดดเด่นมั่นคง ในรอบ 30 ปี จะสามารถก่อร่างสร้างตัว ประสบความสาเร็จในการงาน ปี 51 – 52 ดวงตก บางคนป่วยบางคนตาย อย่างคุณสมัคร ก็เกิดราศีมังกร เห็นไหมครับไปเลย คุณที่เกิดราศีมังกร ถ้าคุณยังไม่ตาย ผ่านเคราะห์มาได้นี่ โชคดีนะครับ เพราะราหูทับจุดเกิด ตั้งแต่ปี 2551 – 52 ปี 53 เซ็งหน่อย ปี 54 จะมั่นคงเจริญก้าวหน้า ใครเลิกกับแฟน ย้ายบ้าน เสียเงินเสียทอง ทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้วครับ ถ้าคุณที่อยู่ได้แสดงว่าคุณยังโชคดีอยู่ ขอให้มีกาลังใจ ดาวประจาตัวคุณคือดาวเสาร์ โคจรเป็นดาวมหาอุจจ์ หลังจาก 7 ธค ปี 54 แล้วหลังจาก 4 พค 54 ต้นปี ดาวพฤหัส 4 ทรงศักดิ์ แช่มช้อยสุข จะเจริญยิ่งยศนา แปลว่าจะเจริญรุ่งเรือง มั่นคง ก้าวหน้า สมหวัง สมปรารถนา แปลว่าท่านที่เกิดราศรีมังกร ถ้าท่านตกงาน จะได้งานทาปีนี้ ฟันธง อย่าเลือกงานก็แล้วกัน ท่านที่เป็นลูกน้องลูกจ้างจะได้เลื่อนยศเลื่อนตาแหน่ง จะได้รถประจาตาแหน่ง ได้โบนัสพิเศษ มั่นคงเจริญก้าวหน้าในงานที่เป็นลูกน้องเขา ฟันธงครับ ท่านที่เกิดราศีมังกร เป็นข้าราชการ จะมีโอกาสเลื่อนยศ เลื่อนตาแหน่ง เป็นปีที่ได้ยศได้เกียรติเจริญยศเจริญศรี ให้ตั้งใจทางานให้ดี จะมั่นคง ฟันธงครับ ท่านที่เป็นเจ้าของธุรกิจ คิดจะทาการค้าขายของกินของใช้ อาหารการกิน ของสวยงาม จะไปได้ดี ค้าขายได้ จะตั้งหลักได้ ค้าขายได้ไม่เจ๊ง ฟันธง ปี 54 ปีโล่งอก ท่านจึงควรหาโอกาสมากราบไหว้ พระศักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 1. พระปางนาคปรก โดยเฉพาะที่หอพระ ศาลหลักเมือง 2. ไหว้พระธาตุดอยตุง ที่จ.เชียงราย และ ไปไหว้หลักเมือง 108 องค์ ที่จ.เชียงราย ประกอบกับหลักเมืองที่ กทม หลักเมืองที่นครศรีธรรมราช และ หลักเมืองที่ จ.เชียงรายจะมี 108 องค์ และ ไหว้หลวงพ่อพระพุทธนิมิตรพิชิตมารโมรีศรีสรรเพชรบรมไตรโลกนาถ ที่วัดหน้า
พระเมรุ จะเป็นมงคล และ ไหว้พระแก้วมรกต และ ให้มาไหว้ เทวดา ทีศาลหลักเมืองกรุงเทพด้วย ไหว้พระเจดีย์เก้ายอด ที่ประจวบ นี่คือมงคลบุญราศรีครับ การเงิน หลัง 24 พค เงินทองจะไหลมาเทมา จะมีโชคลาถมั่งคงเจริญรุ่งเรือง ท่านที่รวยอยู่แล้วจะรวยยิ่งขึ้นครับฟันธง หลัง 24 พค ปี 54 นี้ แปลว่าที่เคยทางานทา 100 ได้ 100 ในปี 54 หลัง 24 พค ทา 100 จะได้ล้าน ฟังธง ขยันแล้วได้ดี เป็นปีที่จะตั้งหลักปักฐานมั่นคงในทรัพย์ ซื้อล็อตเตอร็ก็ถูกหวยได้โชคลาถ หรือ ใครที่แก่แล้วลูกหลานก็จะให้เงินใช้ง่ายๆ มีครบหมดทุกอย่าง เรื่องความรัก จะสมหวัง ราศีที่กินเด็กจะได้คู่ที่อายุน้อยกว่า 5 ปี 7 ปี ชาวราศีนี้จะเป็นคนหน้าแก่คิดแก่เกินวัย ถ้าคุณได้คู่อายุน้อยกว่า หน้าก็จะแก่กว่า คู่จะเป็นเด็ก หน้าเด็ก อารมณ์เป็นเด็ก ชาวราศีนี้จะได้คู่ในปีนี้อย่างแน่นอน ฟังธง ที่สาคัญจะมีคู่เป็นเหมือนแม่ ไม่ว่าสามีก็จะเป็นเหมือนแม่ ที่สาคัญหมดเคราะห์อุบัติเหตุ หมดไป แคล้วคลาด ไม่น่าเป็นห่วง ปลอดภัยทุกประการ ของที่ควรแขวนตัวประจาตน เหรียญหลักเมืองคู่ หรือหลักเมืองเดี่ยว ยันต์ดวงเมือง ที่มีเทวดา ประจาศาลหลักเมือง พระพิฆเนศ เป็นเหรียญเป็นรูปหล่อ แขวนประจาตัวจะคุ้มครอง ลองดูสักปีนึงถ้าโชคดีก็ฟังกันต่อ ถ้าไม่โชคดีก็ลืมกันไปเลย ......
ราศีกุมภ์ เกิดระหว่างวันที่ 13 กพ.- 12 มีค. ปีแห่งความร่ารวยมีโชคลาภในรอบ 18 ปี ดวงดี...ฟันธง
ดวงชะตาท่านที่เกิดราศีกุมภ์ ประจาปี 2554 ปีนี้จะเป็นปีแห่งความร่ารวยรุ่งโรจน์ ในรอบ 18 ปี นี่คือวิหารมหาอุจจ์แบบโบราณ ราศีที่มีเหตุเพทภัย วัดใดที่มีความขลังความศักดิ์สิทธิ์จะมีวิหารมหาอุจจ์ ดังนั้นใครเกิดราศีนี้ อยากรวยทันตาทันใจ ต้องหาโอกาสมาไหว้ หลวงพ่อพระประธาน วัดป่าธรรมโสภณ ดวงดีในรอบ 18 ปี คืออะไร ราหูจะยกย้ายมีตาแหน่งเป็นมหาอุจจ์ หลัง 24 พค ไปปีครึ่ง ดาวประจาตัวท่านจะเป็นดาวมหาอุจจ์ จะใช้เวลาได้ตาแหน่งนี้อีกครั้งนึงอีก 18 ปี บางคนตายไปแล้ว อยากให้รวยสมใจต้องทาอย่างที่ผมว่า หาโอกาสมากราบไหว้ให้ได้ เรื่องการเรียน จะเรียนต่อสาเร็จ สอบเข้าเรียนต่อได้ มีข่าวดีเรื่องการเรียน ยังความชื่นใจมาแก่บิดา มารดา ฟันธงครับ ถ้าจะให้สมหวังสมปรารถนา ต้นปีอย่าไปไหน พาบุตรหลานลูกหลานมาฝากตัว เป็นลูกของพ่อปู่ฤาษี ศรี ที่วัดป่าธรรมโสภณ กราบไหว้ขอกราบตัวเป็นศิษย์ เป็นลูกจะเป็นามงคล เรื่องการงานในปีนี้ ชาวราศีกุมภ์ จะมีโอกาศในการประสบความสาเร็จ ใครตกงานได้งาน ใครเป็นข้าราชการได้เลื่อนตาแหน่ง มีทั้งนักการเมือง นักแสดง มหาเศรษฐี คนที่ทาผับเทคบ่อนบาร์ คนเกิดราศีนี้มัก ศรีษะเถิก อยู่ราศีนี้หมด คนเกิดราศีนี้มีสิทธิรวยอย่างฉับพลัน การงานรุ่งโรจน์ ลงทุนทาการค้าลุย ประสบความสาเร็จ ฟันธง เรื่องการเงิน ปีนี้เป็นปีทอง ที่ท่านกอบโกยแล้วรวยทาในสิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงปีนี้ แล้วปีนี้ตั้งแต่มกราคมจนถึงเมษายนมีโอกาสรวยแบบไม่ทันตั้งตัวฟันธงครับ ขออย่าให้งอมืองอเท้าดวงชะตาดีแล้วต้องเร่งบุญเร่งวาสนาสร้างบุญสร้างกุศล และมาที่วัดป่าธรรมโสภณ อย่างที่ผมแนะนา ความรักในปีนี้จะสุขสมหวัง เจอคู่ผู้รู้ใจ ดวงชะตาคุณ เป็นดวงกินเด็ก จะมีคู่อายุน้อยกว่า 5 –7 ปี ที่สาคัญคุณจะมีเด็กที่อายุน้อยกว่าแต่ดุ ได้เมียดุ ผัวดุ แต่เป็นคนที่มีอานาจบารมี คู่บุญคู่บารมี ใครมีครอบครัวแล้วจะ มีบุตรไว้สืบวงศ์ตระกูลในปีนี้ ฟันธงครับ ปีนี้แข็งแรง อุบัติเหตุไม่ปรากฎ มงคลอันสูงสุด ในปีนี้และเป็นมงคลสาหรับผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน ดารา ทหาร ตารวจ นักการเมือง อยากเจริญรุ่งเรืองต้องทาดังนี้ มาที่วัดป่าธรรมโสภณ เท่านั้น มาเขียนแผ่นทองอธิษฐาน เพื่อเตรียมหล่อ พระราหูเต็มองค์ทรงครุฑ ใครที่อยากเป็นดารา ทหาร ตารวจ นักการเมือง อยากมีตาแหน่งหน้าที่การงาน ให้มากราบที่วัด จะได้อานาจบารมี หาโอกาสไปกราบพระปางนาคปรก พระเสาร์ ที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน กราบหลวงพ่อนั่ง หลวงพ่อนอน วัดสามพระยา ไหว้ศาลพระกาฬ จ.ลพบุรี ทาให้ครบจะรวยทันตาทันใจ
ราศีมีน เกิดระหว่างวันที่ 14 มีค.- 12 เมย. ปีแห่งการผกผัน ดีก็ดีสุดขั้ว ร้ายก็ร้ายจนน่ากลัว แต่มีวิธีแก้ไข...
ท่านที่เกิดราศีมีน มากราบไหว้สักการะบูชา ภูเขาทองวัดสระเกศ เพราะปีนี้เป็นปีแห่งการผกผัน ดีก็ดีสุดขั้ว ร้ายก็ร้ายจนน่ากลัว จึงต้องหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านที่เกิดในราศีมีน ต้องหาเทวดาองค์นี้ เป็นเทวดาพฤหัสบดีทรงกวางทอง เป็นเทพประจาตัวราศีมีน เรื่องของการเรียนจะอ่านจะเขียนจะเรียนอะไรก็ประสบความสาเร็จ สอบเข้าเรียนต่อได้เพื่อนฝูงดี ตั้นแต่ต้นปี ประสบความสาเร็จ โดยเฉพาะก่อน 4 พค .อ่านเขียนเรียนสอบประสบความสาเร็จ ฟันธง การงานมักทางานที่เกี่ยวข้องกับราชการ รัฐวิสาหกิจ งานบริหารวางแผน การจัดการ บริษัทข้ามชาติ หรือคนทางานด้านการปกครอง การบันเทิง พ่อค้าแม่ขายปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ความสาเร็จอันใดที่เป็นสิ่งที่ใช่จะปรากฏก่อน 4 พค.คิดอยากทาอะไรตั้งใจทาอะไร สาเร็จทุกประการ ฟันธง ก่อน 4 พค รีบหลังจากนั้นอันตราย ใครตกงานมีเกณฑ์ได้งาน ตามที่ปรารถนา จะสอบจะบรรจุ ให้สาเร็จก่อน 4 พค ใครก็ตามทีมีเกณฑ์เลื่อนขั้นในปีนี้ ให้ตั้งใจทางาน ข้าราชการรัฐวิสาหกิจ มีเกณฑ์เจริญรุ่งเรืองขึ้นฟันธงตตรับ ใครที่เป็นพ่อค้าแม่ขาย เป็นปีซื้อง่ายขายคล่อง หลัง 4 พค ไหลมาเทมามีโอกาสได้เงินก้อนใหญ่ มีโอกาสรวยทาอะไรก็รุ่ง ฟันธง การเงิน 7 มค แล้วไหลมาเทมามีโอกาสได้เงินก้อนใหญ่ มีเงินเป็นกอบเป็นกา มีหนี้หมดหนี้ ได้การี้กาไร เรื่องความรักสมหวังก่อน 4 พค มีโอกาสเจอคู่แท้ หลัง พค ต้องจบกัน ไม่ใช่คู่แท้ก็จะจากไป คนที่เกิดราศีมีนก็จะอาภัพครับ คู่ของท่านเป็นคนช่างพูดช่างคิด ช่างวางแผน ถ้าจะให้สมหวังเรื่องความรักต้องให้ลงเอยก่อนวันที่ 4 พค หลังจากนั้นจะมีเกณฑ์เลิก พลัดพรากจากกัน เพราะไม่ใช่คู่แท้เป็นคู่เวรคู่กรรม หลายคนในราศีมีนนะคะ แต่งงานหลายหนหรือผิดหวังในความรัก ต้องทาใจ เพราะเป็นวิบากแห่งชะตากรรม เมื่อเจอใครหาโอกาสไปไหว้พระชวนกันไปทาบุญ จะค้าจุนเกือกูลต่อกัน เรื่องสุขภาพให้ระวังอุบัติเหตุ เจ็บไข้ได้ป่วย ต้องระมัดระวัง ตรวจร่างกายทุก 3 - 6 เดือน อุบัติเหตุก็ต้องระวังขับรถอย่าประมาท หาสิ่งดีๆ คุ้มครองตัว สิ่งที่ชาวราศีต้องไปกราบคือ 1.พระบรมราชนุสาวรีย์ ตั้งแต่เหนือ พ่อขุนเม็งราย จ.เชียงราย เจ้าแม่จามเทวี จ.ลาพูน ตลอดจนพระบรมราชานุสาวรีย์พระนารายณ์มหาราช ที่สุพรรณบุรี หรือ ที่วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยาหรือ อนุสาวรีย์กลางเมืองลพบุรี สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระบรมราฃาอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราชที่วงเวียนใหญ่ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชที่สะพานพุทธ พระปิยะมหาราชที่พระบรมรูปทรงม้า ให้ไปกราบสักการะจะเป็นมหามงคล และพ่อขุนรามคาแหง จะไปไหว้ที่ ม.รามคาแหง หรือ ที่สุโขทัยก็ได้จะเป็นมงคล 2. พระปางนาคปรก ศาลหลักเมือง กทม หรือ หลวงปู่ทวดเหยียบน้าทะเลจืด ที่วัดไตรมิตร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ องค์ละ 2-300 ร้อย ท่านจะแคล้วคลาด ปลอดภัย เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงนั่งหลั่งน้าประกาศอิสรภาพ จะเป็นมหามงคลคุ้มครองให้ท่านโชคดี ขอให้คุณโชคดี เจริญรุ่งเรืองในปี 54 ฟันธงครับ
ราศีเมษ เกิดระหว่างวันที่ 13 เม.ย.- 13 พ.ค. ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตจากร้ายกลายดี
เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต ราศีเมษเป็นราศีเดียวกับดวงเมืองประเทศไทย หลายปีที่ผ่านมามีเมืองไทยวุ่นวาย ทั้งเจอวิกฤตทางเศรษฐกิจ สังคมการเมือง อิรุงตุงนัง แถมปลายปียังมีภัยทางธรรมชาติทางน้า พายุเข้ามาอีก แต่ปี 2554 เป็นปีที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตจากร้ายกลายดี ดาวประจาตัวของคนที่เกิดราศีเมษ คือดาวอังคาร ในปี 2553 ที่ผ่านมา โคจรวิปริต เดินหน้า ถอยหลังยึกๆยักๆ ปี 2554 ดาวโคจรเดินหน้าอย่างเป็นจังหวะ จะโคน ดาวศุกร์ซึ่งเป็นตัวแทนของความสุข ความรัก การเงิน โคจรเป็นปกติตลอดปี และมีตัวโคจรอย่างรวดเร็วแสดงถึงเกิดผลเร็วแสดงว่าเป็นปีที่มือใครยาวสาวได้สาวเอา สาหรับท่านที่เกิดในราศีเมษ ขยัน ตั้งใจ รุกแล้วลุย จะสาเร็จ ฟันธง! เมื่อสาเร็จอย่างนี้ แปลว่า ไม่ว่าจะอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน ตั้งใจขยันอ่านเขียน เรียน สอบ สาเร็จทุกประการ ฟันธง! ครับ เรื่องการงาน คนคิดจะลงทุน จังหวะนี้ไม่ต้องรอ ลุย แล้วสาเร็จมั่นคง ข้าราชการก็เลื่อนขั้นเลื่อนตาแหน่ง โดยเฉพาะจุดที่เลื่อนหรือเปลี่ยนแปลง จะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค. วันที่ 4 พ.ค. ดาวพฤหัสบดี ที่เป็นตัวแทนแห่งโชคลาภ และความสาเร็จ โคจรทับดวงชะตาของท่านที่เกิดในราศีเมษ และประเด็นสาคัญ ในวันที่ 24 พ.ค. ดาวราหูจะโคจรเข้าสู่พระศุภะ ดาวราหูจะโคจรเข้าสู่มรณะ ดาวแห่งความวุ่นวาย ดาวแห่งความมืดมนจะไปอยู่ในมุมมืด อยุ่ในมุมอับ ไม่ส่งผลร้ายต่อชาวราศีเมษ เมื่อชีวิตดวงดี เริ่มดี คุณก็ต้องคิดดีทาดี และหลังจากนั้นสิ่งที่ตามมาคือ เงินทองไหลมาเทมา ตลอดทั้งปี เริ่มเหลือเก็บ และลงทุนเริ่มมีการี้กาไร ความรักในปี 2554 ใครเป็นโสด เจอคู่แท้ ฟันธง! ใครยังไม่ได้แต่งจะได้แต่ง ฟันธง! ใครที่มีครอบครัวแล้ว ยังไม่มีบุตรไว้สืบวงศ์ตระกูล ปี 2554 อาจจะมีบุตรไว้สืบวงศ์ตระกูล ฟันธง! เพราะฉะนั้น ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ท่านจะมีอุปสรรคหรือปัญหาอะไร ให้รู้เอาไว้ ท่านจะชนะทุกอย่าง ถ้าลุกขึ้นสู้ แล้วมีใจสู้ ปีนี้ที่จะเป็นมหามงคลสาหรับชีวิตคือ การมีโอกาสไปกราบสักการะหลวงพ่อแก้วมรกต ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือหลวงพ่อพระแก้วมรกต ที่วัดพระแก้วเชียงราย จังหวัดเชียงราย ศาลหลักเมืองกรุงเทพ เพราะจะสร้างเมืองสร้างชีวิต ต้องเอาผ้าไปผูกขอพรจากศาลหลักเมือง เฉกเช่นเดียวกัน หลักเมืองที่เป็นมหามงคล มี 108 องค์ 108 ต้น อยู่ที่จังหวัดเชียงราย พระพุทธมหาเศรษฐีนวโกฎิ ที่ภูเขาทองวัดสระเกศ ปีนี้แขวนพระเสริมดวง พระพิฆเนศวร์วิเศษลาภา จะมีโชคลาภ มีปัญญา สมปรารถนา พระเศรษฐีนวโกฎิ แขวนติดตัวประจาตน ไม่อับจนมีเงินมีทอง ปี2554 จะโชคดี มั่นคง ร่ารวย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เเนะนำสังกัด

เสนอ
คุณครูธณภน 
โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21

วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วันวาเลนไทน์ 140254

I ve  know  for  a  long  time  how  much  you  care  me
And  how  much  I  meant  to  you
Thank  you  for  everything  you ve  done  for  me
I m  very  proud  to  have  you  in  my  life
I ll  always  love  you  with  all  my  heart

ตลอดเวลาที่ผ่านมา กับความรู้สึกดีดีที่เธอมีให้
ฉันรับรู้และปลื้มใจ กับการเป็นคนที่มีความหมายสำหรับเธอ
ขอบคุณทุกสิ่งอย่าง ที่เธอได้สรรค์สร้างให้ฉันเสมอ
ภูมิใจที่ชีวิตนี้ได้มีเธอ คนที่ฉันรักเสมอทั้งหัวใจ

กวีประเทศไทย

เกิดอะไร  กับไทย  ในวันนี้
ทั้งแบ่งสี  แบ่งฝ่าย  กันหลายด้าน
มีศึกนอก  ศึกใน  ให้ร้าวราน
จะพ้นผ่าน  เหตุการณ์ไป  อย่างไรกั


ฟังข่าวเช้า  ข่าวค่ำ  ทำสลด
ฤาเป็นกฎกรรมมี  ที่ขี

การงานอาชีพ

ฮาร์ดแวร์คืออะไร
ฮาร์ดแวร์ หมายถึง อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นโครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ (รูปธรรม) เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นต้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ตามลักษณะการทำงาน ได้ 4 หน่วย คือ หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) หน่วยแสดงผล (Output Unit) หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) โดยอุปกรณ์แต่ละหน่วยมีหน้าที่การทำงานแตกต่างกัน

1. ฮาร์ดแวร์สำคัญที่พบใน Case ได้แก่
1.1 Power Supply
1.2 Mainboard และ ฮาร์ดแวร์ที่ติดตั้งหรือเป็นส่วนหนึ่งของ Mainboard ที่สำคัญ ได้แก่
1.2.1 CPU
1.2.2 RAM
1.2.3 Expansion Slots
1.2.4 Ports
1.3 Hard Disk
1.4 Floppy Disk Drive
1.5 CD-ROM Drive
1.6 DVD-ROM Drive
1.7 Sound Card
1.8 Network Card
2. ฮาร์ดแวร์สำคัญที่อยู่นอก Case ที่สำคัญได้แก่
2.1 Keyboard
2.2 Monitor
2.3 Mouse
2.4 Printer
2.5 Scanner
2.6 Digital Camera
2.7 Modem
2.8 UPS

เคส (Case)
คือ ส่วนที่เป็นกล่องหรือตัวถังสำหรับบรรจุแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ตัวจ่ายไฟและอุปกรณ์ต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ให้เป็นระเบียบ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า และป้องกันอุปกรณ์ภายในไม่เสียหายจากแมลง หรือฝุ่นละอองต่างๆ เคสที่ดีไม่ใช่แค่สวยงามเท่านั้น แต่ต้องออกแบบให้ระบายความร้อนได้ดีอีกด้วย


ปัจจุบัน Case มี 2 แบบ คือ แบบนอน (เรียกว่า Desktop ) และ แบบตั้ง (Tower)
Case แบบนอนนั้น สามารถนำจอภาพมาตั้งไว้ข้างบนได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อที่จำกัดที่จะวางเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่มีข้อเสียที่ภายในมีเนื้อที่จำกัด อาจเป็นอุปสรรค์เมื่อต้องการเพิ่มฮาร์ดแวร์ภายหลัง อย่างไรก็ตาม Case แบบนอนบางยี่ห้ออาจออกแบบมาดีจนเรื่องนี้ไม่ใช่อุปสรรคก็ได้




Case แบบตั้งเปลืองเนื้อที่กว่า เพราะไม่สามารถวางจอภาพไว้ข้างบนได้ แต่มีข้อได้เปรียบ Case แบบนอน คือเนื้อที่ข้างในมากกว่า จึงเพิ่มฮาร์ดแวร์ได้มากชิ้นกว่า แต่อย่างที่กล่าวแล้วข้างบน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการออกแบบ Case แบบตั้งหากออกแบบไม่ดี อาจมีเนื้อที่เหลือให้เพิ่มฮาร์ดแวร์น้อยกว่าแบบนอนก็ได้

เมนบอร์ด Mainboard
คอมพิวเตอร์นั้นทำงานโดยอาศัยชิป (Chips) จำนวนหนึ่ง ชิปส่วนใหญ่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมบางและแบนคล้ายขนมปัง (Wafer) ประเภทที่บรรจุในกระป๋อง ชิปเหล่านี้จะติดตั้งไว้บนแผงไฟเบอร์กลาส (Fibreglass) ที่เรียกว่า Mainboard ซึ่งในต่างประเทศ อาจเรียกว่า Motherboard หรือ System Board ก็ได้
ชิปแต่ละตัว มีทรานซิสเตอร์บรรจุอยู่ภายในจำนวนมาก การทำงานของชิปอาศัยการเปิด-ปิด (หรือเปลี่ยนสถานะเป็น 1 หรือ 0) อย่างผสมผสานระหว่างทรานซิสเตอร์เหล่านี้
ชิปบน Mainboard ที่สำคัญได้แก่ CPU เป็นชิปที่เปรียบได้ว่าเป็นสมองของคอมพิวเตอร์ RAM เป็นชิปหน่วยความจำหลักที่ทำหน้าที่เก็บรักษาข้อมูลระยะสั้น ตามความต้องการของ CPU Cache (อ่านว่า แคช) เป็นชิปหน่วยความจำเสริมที่ช่วยทำให้การ สื่อสารข้อมูลระหว่าง CPU และ RAM รวดเร็วขึ้น และ Chipset ซึ่งปัจจุบันมี 2 ตัว ทำหน้าที่เสมือนตำรวจจราจร ควมคุมการติดต่อสื่อสารระหว่างชิปที่กล่าวมาแล้วและอุปกรณ์อื่นๆที่อยู่บน Mainboard
คุณสมบัติของ Mainboard ที่ต้องพิจารณามากที่สุด คือ Mainboard แต่ละยี่ห้อและรุ่นได้ถูกออกแบบมา ควบคู่กับ Chipset ที่ติดมาด้วย ทั้ง Mainboard และ Chipset จึงร่วมกันกำหนดให้คอมพิวเตอร์ สามารถใช้ CPU เฉพาะยี่ห้อและรุ่นที่ระบุไว้เท่านั้น โดยมากจะกำหนดให้ใช้ได้กับ CPU เพียงยี่ห้อเดียว (ของ Intel หรือ AMD) แต่สามารถรองรับหลายรุ่นที่มีความเร็วที่แตกต่างกัน
องค์ประกอบของ Mainboard ที่ผู้ใช้ทั่วไปควรทราบมีดังนี้
1. เป็น Socket สำหรับเสียบ CPU
2. เป็น Socket(s) สำหรับเสียบ RAM Modules ซึ่งในที่นี้มี 3 Sockets
3. AGP (Accelerated Graphic Port) Slot สำหรับเสียบ VGA Card
4. Expansion Slots แบบ PCI จำนวน 5 Slots
5. Ports ต่างๆ

หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)

หน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียู เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โปรเซสเซอร์ (Processor) หรือ ชิป (chip) นับเป็นอุปกรณ์ ที่มีความสำคัญมากที่สุด ของฮาร์ดแวร์เพราะมีหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อน เข้ามาทางอุปกรณ์อินพุต ตามชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ผู้ใช้ต้องการใช้งาน หน่วยประมวลผลกลาง ประกอบด้วยส่วนประสำคัญ 3 ส่วน คือ
1. หน่วยคำนวณและตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit : ALU)
หน่วยคำนวณตรรกะ ทำหน้าที่เหมือนกับเครื่องคำนวณอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยทำงานเกี่ยวข้อง กับ การคำนวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร นอกจากนี้หน่วยคำนวณและตรรกะของคอมพิวเตอร์ ยังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่เครื่องคำนวณธรรมดาไม่มี คือ ความสามารถในเชิงตรรกะศาสตร์ หมายถึง ความสามารถในการเปรียบเทียบตามเงื่อนไข และกฏเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ เพื่อให้ได้คำตอบออกมาว่าเงื่อนไข นั้นเป็น จริง หรือ เท็จ เช่น เปรียบเทียบมากว่า น้อยกว่า เท่ากัน ไม่เท่ากัน ของจำนวน 2 จำนวน เป็นต้น ซึ่งการเปรียบเทียบนี้มักจะใช้ในการเลือกทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ จะทำตามคำสั่งใดของโปรแกรมเป็น คําสั่งต่อไป
2. หน่วยควบคุม (Control Unit)
หน่วยควบคุมทำหน้าที่คงบคุมลำดับขั้นตอนการการประมวลผลและการทำงานของ อุปกรณ์ต่างๆ ภายใน หน่วยประมวลผลกลาง และรวมไปถึงการประสานงานในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยประมวลผลกลาง กับอุปกรณ์นำเข้าข้อมูล อุปกรณ์แสดงผล และหน่วยความจำสำรองด้วย เมื่อผู้ใช้ต้องการประมวลผล ตามชุดคำสั่งใด ผู้ใช้จะต้องส่งข้อมูลและชุดคำสั่งนั้น ๆ เข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์เสียก่อน โดยข้อมูล และชุดคำสั่งดังกล่าวจะถูกนำไปเก็บไว้ในหน่วยความจำหลักก่อน จากนั้นหน่วยควบคุมจะดึงคำสั่งจาก ชุดคำสั่งที่มีอยู่ในหน่วยความจำหลักออกมาทีละคำสั่งเพื่อทำการแปล ความหมายว่าคำสั่งดังกล่าวสั่งให้ ฮาร์ดแวร์ส่วนใด ทำงานอะไรกับข้อมูลตัวใด เมื่อทราบความหมายของ คำสั่งนั้นแล้ว หน่วยควบคุมก็จะส่ง สัญญาณคำสั่งไปยังฮาร์แวร์ ส่วนที่ทำหน้าที่ ในการประมวลผลดังกล่าว ให้ทำตามคำสั่งนั้น ๆ เช่น ถ้าคำสั่ง ที่เข้ามานั้นเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการคำนวณ หน่วยควบคุมจะส่งสัญญาณ คำสั่งไปยังหน่วยคำนวณและตรรกะ ให้ทำงาน หน่วยคำนวณและตรรกะก็จะไปทำการดึงข้อมูลจาก หน่วยความจำหลักเข้ามาประมวลผล ตามคำสั่งแล้วนำผลลัพธ์ที่ได้ไปแสดงยังอุปกรณ์แสดงผล หน่วยคงบคุมจึงจะส่งสัญญาณคำสั่งไปยัง อุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ ที่กำหนดให้ดึงข้อมูลจากหน่วยความจำหลัก ออกไปแสดงให้เห็นผลลัพธ์ดังกล่าว อีกต่อหนึ่ง
3. หน่วยความจำหลัก (Main Memory)
คอมพิวเตอร์จะสามารถทำงานได้เมื่อมีข้อมูล และชุดคำสั่งที่ใช้ในการประมวลผลอยู่ในหน่วยความ จำหลักเรียบร้อยแล้วเท่านั้น และหลักจากทำการประมวลผลข้อมูลตามชุดคำสั่งเรียบร้อบแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ จะถูกนำไปเก็บไว้ที่หน่วยความจำหลัก และก่อนจะถูกนำออกไปแสดงที่อุปกรณ์แสดงผล

• การทำงานของคอมพิวเตอร์ ใช้หลักการเก็บคำสั่งไว้ที่หน่วยความจำ ซีพียูอ่านคำสั่งจากหน่วยความจำมาแปลความหมายและกระทำตามเรียงกันไปทีละคำ สั่ง หน้าที่หลักของซีพียู คือควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ทั้งระบบ ตลอดจนทำการประมวลผล
• กลไกการทำงานของซีพียู มี ความสลับซับซ้อน ผู้พัฒนาซีพียูได้สร้างกลไกให้ทำงานได้ดีขึ้น โดยแบ่งการทำงานเป็นส่วน ๆ มีการทำงานแบบขนาน และทำงานเหลื่อมกันเพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น
• หน่วยความจำหลัก (RAM) แรม

• RAM ย่อมาจาก (Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำหลักที่จำเป็น หน่วยความจำ ชนิดนี้จะสามารถเก็บข้อมูลได้ เฉพาะเวลาที่มีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงเท่านั้นเมื่อใดก็ตามที่ไม่มีกระแสไฟฟ้า มาเลี้ยง ข็อมูลที่อยู่ภายในหน่วยความจำชนิดจะหายไปทันที หน่วยควมจำแรม ทำหน้าที่เก็บชุดคำสั่งและข้อมูลที่ระบบคอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าข้อมูล (Input) หรือ การนำออกข้อมูล (Output) โดยที่เนื้อที่ของหน่วยความจำหลักแบบแรมนี้ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ
1. Input Storage Area เป็นส่วนที่เก็บข้อมูลนำเข้าที่ได้รับมาจากหน่วยรับข้อมูลเข้าโดย ข้อมูลนี้จะถูกนำไปใช้ในการประมวลผลต่อไป
2. Working Storage Area เป็นส่วนที่เก็บข้อมูลที่อยู่ในระหว่างการประมวลผล
3. Output Storage Area เป็นส่วนที่เก็บผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล ตามความต้องการของผู้ใช้ เพื่อรอที่จะถูกส่งไปแสดงออก ยังหน่วยแสดงผลอื่นที่ผู้ใช้ต้องการ
4. Program Storage Area เป็นส่วนที่ใช้เก็บชุดคำสั่ง หรือโปรแกรมที่ผู้ใช้ต้องการจะส่งเข้ามา เพื่อใช้คอมพิวเตอร์ปฏิบัติตามคำสั่ง ชุดดังกล่าว หน่วยควบคุมจะทำหน้าที่ดึงคำสั่งจากส่วน นี้ไปที่ละคำสั่งเพื่อทำการแปลความหมาย ว่าคำสั่งนั้นสังให้ทำอะไร จากนั้นหน่วยควบคุม จะไปควบคุมฮาร์ดแวร์ที่ต้องการทำงานดังกล่าวให้ทำงานตามคำสั่งนั้นๆ
• ความเร็วของ RAM คิดกันอย่างไร
ที่ตัว Memorychip จะมี เลขรหัส เช่น HM411000-70 ตัวเลขหลัง (-) คือ ตัวเลขที่บอก ความเร็วของ RAM ตัวเลขนี้ เรียกว่า Accesstime คือ เวลาที่เสียไป ในการที่จะเข้าถึงข้อมูล หรือ เวลาที่แสดงว่า ข้อมูลจะถูก ส่งออกไปทาง Data busได้เร็วแค่ไหน ยิ่ง Access time น้อยๆ แสดงว่า RAM ตัวนั้น เร็วมาก
• ตารางค่า Access time บน Chip
Access time(ns) ตัวเลขที่พบบน Memory chip
250 25
200 20
150 15
120 12
100 10
85 85
80 8,80
70 7,70
65 65
60 6,60
53 53
• ความเร็วของ RAM เรียกว่า Cycle time ซึ่งมีหน่วยเป็น ns โดย Cycle time เท่ากับ Read/Write cycle time (เวลาที่ในการส่งสัญญาณติดต่อ ว่าจะอ่าน/เขียน RAM) รวมกับ Access time และ Refresh time
• โดยทั่วไป RAM จะต้องทำการตอบสนอง CPU ได้ในเวลา 2 clock cycle หรือ 2 คาบ หาก RAM ตอบสนองไม่ทัน RAM จะส่งสัญญาณ /WAIT บอก CPU ให้ คอย คือ การที่ CPU เพิ่ม clock cycle ซึ่งช่วงเวลานี้เรียกว่า WAIT STATE
• วิธีที่ใช้ในการแก้ไข WAIT STATE
• 1. เทคนิค INTERLEAVE
เทคนิคนี้เป็นการลดปัญหาเรื่อง Refresh time เพราะในการทำงานของ RAM จะเห็นว่าใน การติดต่อกับ Memory 1 address จะใช้เวลา 1 cycle time ในการที่ CPU ติดต่อ กับ Memory ในแต่ละครั้ง จะติดต่อเป็น block คือ หลาย Address เรียงต่อกัน จากความจริง ข้อนี้ เทคนิคการ Interleave จึงเกิดขึ้น โดยหลักการที่จะทำให้ Cycle time เหลื่อมกันเกิดจน Cycle time ใหม่ที่แคบลง
การสลับ Bank ของ Memory โดย Bank บล็อกหนึ่งจะมี Memory address เป็นเลขคี่ อีก Bank จะเป็นเลขคู่ เวลา CPU ติดต่อสลับไปสลับมาใน 2 Bank เพราะฉะนั้นต้องใส่ Memory ให้เต็ม Bank เป็นจำนวนคู่ เช่น 2 Bank หรือ 4 Bank ถ้า Memory ขนาดเท่ากัน คนที่ใส่ Memory ทั้งหมดไว้ใน Bank เดียว จะทำงานได้ช้ากว่า คนที่แบ่ง Memory ใส่เป็น 2 Bank แต่ Bank ก็จะ เหลือน้อยด้วย
• 2. วิธีการ Page Mode
วิธีการนี้จะต้องใช้ RAM พิเศษ คือ Paged RAM โดย Memory จะถูกมองว่า แบ่ง เป็นกลุ่ม หรือ Page หลาย Page ในการติดต่อกับ Memory ที่ Address อยู่ใน Page เดียวกัน ต่อๆ ไป โดยไม่ต้องมี Wait State แต่ถ้ามีการติดต่อกับ Page อื่น จะมี Wait State เหมือนเดิม
• 3. Cache Memory Memory
ส่วนนี้จะถูกรวมกับ CPU ซึ่งก็คือ Internal Cache แต่ถ้าเอามาติดบนเมนบอร์ด จะเรียกว่า External Cache ก็คือ RAM นั่นเอง แต่ความเร็วจะสูงมาก ทำให้ไม่มีภาวะ Wait State วิธีการก็คือ พยายามให้ CPU ติดต่อกับ Cache ซึ่งเป็น SRAM ความเร็วสูงก่อน เพราะ ไม่มีภาวะ WaitState โดยจะมีวงจร Cache controller ซึ่งเป็น ตัวจัดการ Cache โดยมันจะตัด บล็อกข้อมูลจาก main memory ประมาณบล็อกละ 2-4 KB มาใส่ไว้ใน Cache พอ CPU ติดต่อ Memory ก็จะมาดูใน Cache ก่อนว่ามีข้อมูลที่ต้องการหรือไม่ ถ้าไม่มีก็จะไปเอาจาก Main memory ความสำคัญของ Cache คือ การตัดบล็อกมาให้ถูกตามความต้องการของ CPU โดย Cache controller จะใช้วิธีการ Random แต่ Random อย่างมีหลักการ คือ CPU มักต้องการ ข้อมูลที่ต่อเนื่องกัน เพราะฉะนั้น Cache จะตัดข้อมูลบล็อกถัดไปมาเก็บไว้ การ Random แบบนี้ให้ความแม่นยำถึง 80% ทีเดียว คือ ไม่มีภาวะ Wait State เป็นเวลา 80% ของเวลาที่ใช้ ทำงานทั้งหมด
• การ Check Parity
• การเช็ค Parity เป็นการ เพิ่มบิตพิเศษเข้าไปอีก 1 บิต ให้กับทุกๆ 8 บิต ของข้อมูล จนกลายเป็น 9 บิต บิตที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่ข้อมูล แต่ใส่เพื่อตรวจสอบว่า ข้อมูลมีความผิดพลาดหรือไม่ โดยใช้หลักการนับขำนวนบิตข้อมูลที่มีค่าเป็น 1 ในทุกๆ 8 บิต การเข็ค Parity นี้แบ่งได้ 2 วิธี คือ Odd Parity (Parity คี่) และ Even Parity (Parityคู่)
• สำหรับวิธี Odd Parity จะทำการนับจำนวนบิตที่เป็น 1 ใน 8 บิตว่ามีจำนวนเป็นคู่ หรือเป็นคี่ โดยมี IC 74LS280 ทำหน้าที่เป็นตัวสร้าง Parity และ เป็นตัวตรวจสอบ ถ้า 74LS280 นับจำนวน 1 ใน 8 บิตได้ เป็นจำนวนคู่ที่ Parity bit จะถูกเซ็ตให้เป็น 1 เพื่อให้จำนวนของ 1 ใน 9 บิต (รวม Parity bit ด้วย) เป็นจำนวนคี่ แต่ถ้านับจำนวนของ 1 ใน 8 บิต ได้เป็นเลขคี่ Parity bit จะถูกเซ็ตให้เป็น 0 เพื่อให้จำนวนของ 1ใน 9 บิต รวมเป็นเลขคี่ ถ้าวิธ ีEven Parity ก็จะทำใน ทางกลับกัน คือพยายามเซ็ต Parity ให้จำนวนของ 1 ใน 9 บิตเป็นจำนวนคู่
• Parity bit จะถูกสร้างตอน เขียนข้อมูลลงใน RAM และจะถูกตรวจสอบ เมื่อมีการ อ่านข้อมูลจาก RAM เช่น ถ้าข้อมูลเป็น 11001010 ด้วยวิธี Odd Parity จะ เซ็ต Parity bit เป็น 1 แต่ถ้าตอนอ่านข้อมูลเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็น 10001010 โดย Odd Parity ยังคงเป็น 1 ก็จะแสดง ว่ามีการผิดพลาดเกิดขึ้น IC 74LS280 จะทำการสร้างสัญญาณไปบอกให้ CPU เกิดการ Halt และแสดงข้อความรายงานทางหน้าจอในแบบต่างๆ เช่น PARITY ERROR SYSTEM HALT
• ข้อเสียของการใช้ Parity bit คือ เสียเวลา และไม่ได้ประโยชน์เท่าไรนัก เพราะไม่ สามารถบอกได้ว่าผิดที่ตำแหน่งไหน และแก้ไขข้อผิดพลาดไม่ได้ บอกได้แค่ว่ามีความผิดพลาด เกิดขึ้นเท่านั้น ยิ่งกว่านั้น ถ้าสมมติ ข้อมูลเกิดผิดพลาดทีเดียว 2 บิต เช่น 10001001 เปลี่ยนเป็น 10101011 เราก็ไม่สามารถเช็คข้อผิดพลาดโดยใช้วิธี Parity ได้
• เมื่อรู้การทำงานของ RAM แล้ว เราก็จะมาดู ประเภทของ RAM ที่มีใช้กันอยู่
1. DIP (Dual In-line Package) เป็นแบบพื้นฐานที่ใช้กัน เพราะ DIP คือ RAM ที่อยู่ในรูปแบบของ IC (Integrate Circuit ) หรือ Memory chip การใช้งาน หรือติดตั้ง RAM ชนิดนี้ทำได้โดยการติดลงบน ซ็อคเก็ตของ DIP เท่าที่เมนบอร์ดเตรียมไว้ให้ นั่นหมายความว่า ยิ่งความต้องการติด DIP มากๆ เมนบอร์ดก็ต้องมีซ็อคเก็ตไว้ให้มากๆ ผลก็คือ ใช้พื้นที่เปลือง และทำให้เมนบอร์ดใหญ่มาก ในการติด DIP ยังต้องระมัดระวังด้วย เพราะ Pin บอบบาง งอง่าย หักง่าย ทั้งยัง เสียเวลาในการติด
2. SIPP (Single In-line Pin Package) จะลดความยุ่งยากของการติดตั้ง RAM แบบ DIP ลง โดยติดลงบนแผ่น PCB (Printed Circuit Board) ซะก่อน SIPP เป็นแผ่น PCB ที่มี Pin ซึ่งเหมือนขาของ IC แต่ Pin ของ SIPP จะมีเพียงแถวเดียวเรียงไปตามแนวยาวของแผ่น PCB การติดตั้ง SIPP ที่มีลักษณะเป็นรูกลมเรียงหนึ่งเป็นแถวยาวมีจำนวนรูเท่ากับ Pin ของ SIPP พอดี ประหยัดเนื้อที่บนเมนบอร์ด และติดตั้งง่ายกว่า DIP มาก
3. SIMM (Single In-line Memory Module) รูปร่างหน้าตา จะคล้ายกับ SIPP แต่ต่าง ส่วนที่จะต่อกับ ซ็อคเก็ตบนเมนบอร์ด จาก Pin เป็นแบบ Edge Connector คือเป็น ลายวงจรเรียง กันเป็นซี่ตามขอบของ PCB ในแนวยาว ลักษณะเหมือนกับ ที่เห็นตามการ์ดต่างๆ แต่ในการติดตั้ง SIMM จะไม่ใช้การเสียบลงไปตรงๆ เหมือนการ์ดทั่วไป แต่จะเสียบลงแบบเอียงๆแล้วดันSIMM ไปด้านข้างเพื่อให้ กลไกบนซ็อคเก็ตทำการล็อก SIMM เอาไว้ การใช้ Edge connector ในSIMM ก็เพื่อตัดปัญหาเรื่องหน้าสัมผัสของ Pin กับซ็อคเก็ต
SIMM ที่ถูกผลิตออกมาจะแบ่งได้เป็นชนิดต่างๆ ตามความกว้างของข้อมูลของ SIMM แต่ละโมดูล คือ ชนิด 8 บิต, 16 บิต, 32 บิต การจัดวางลำดับของ Edge connector จะมีมาตรฐาน กลางที่ใช้กันอยู่
4. DIMM (Dual In-line Memory Module) เป็น RAM ชนิดใหม่ และถูกกำหนด ให้เป็นมาตรฐานกลางโดย JEDEC (Joint Electron Device Engineering Council) ลักษณะโดย ทั่วไป จะคล้าย SIMM แต่จะมี 168 Pin (ข้างละ 84 pin )
• Module ของ RAM
RAM ที่เรานำมาใช้งานนั้นจะเป็น chip เป็น ic ตัวเล็กๆ ซึ่งส่วนที่เรานำมาใช้เป็นน่วยความจำหลัก จะถูกบัดกรีติดอยู่บนแผงวงจร หรือ Printed Circuit Board เป็น Module ซึ่งมีหลัก ๆ อยู่ 2 Module คือ SIMM กับ DIMM
• SIMM หรือ Single In-line Memory Module
โดยที่ Module ชนิดนี้ จะรองรับ datapath 32 bit โดยทั้งสองด้านของ circuit board จะให้สัญญาณ เดียวกัน
• ความเป็นมาของ SIMM RAM
ในยุคต้น ๆ ที่คอมพิวเตอร์เริ่มใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งส่วนมากมักเป็นคอมพิวเตอร์ ระดับบุคคล (prosonal computer:PC) ใช้ซีพียู 8088 หรือ 80286 หน่วยความจำ DRAM ถูกออกแบบให้ บรรจุอยู่ในแพคเกจแบบ DIP (dual in-line package) หรือที่เรียกว่าแบบตีนตะขาบเหมือนกับไอซีที่ใช้งานกันทั่วไป การใช้งานหน่วยความจำแบบนี้ จึงต้องมีการจัดสรรพื้นที่มากพอสมควร บนเมนบอร์ด ถ้าเคยเปิดฝาเรื่องดูภายในก็จะเห็นซ็อกเก็ตไอซีเหล่านี้ เรียงกันเป็นแถวเต็มไปหมด
การเพิ่มหน่วยความจำชนิดนี้ทำได้ง่าย เพี่ยงแต่ซื้อ DRAM ตามขนาดความจุที่ต้องการมา เสียบลงใน ซ็อกเก็ตที่เตรียมไว้ และทำการติดตั้งจั๊มเปอร์อีกบางตัวหรือบางเครื่องอาจเพียงตั้งค่าในซอตฟ์แว ร์ ไบออส (BIOS) ของเครื่องใหม่ เป็นอันเรียบร้อยใช้งานได้ทันที
ครั้งเมื่อเวลาผ่านไปเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น เทคนิคการแพคเกจชิพไอซีลงบนตัวถังทันสมัยมากขึ้น และเป็นที่รู้จักกันดีกับเทคโนโลยี อุปกรณ์ติดพื้นผิว ทำให้การติดตั้งหน่วยความจำหรือเพิ่มหน่วยความจำ ทำได้ยากขึ้นและต้องมีเครื่องมือเฉพาะ จึงได้มีการคิดค้น วิธีการใหม่ โดยการนำเอาตัวไอซี DRAM แบบ ติตั้งบนพื้นผิวไปติดบนแผงวงจรแผ่นเล็ก ๆ ก่อน แล้วจึงเดินลายทองแดงต่อขาจากตัวไอซี DRAM ออกมา และแยกเป็นขาเชื่อมต่อเอาไว้เมื่อต้องการจะติดตั้งก็นำเปเสียบลงในซ็อกเก็ต ที่เตรียมไว้บนเมนบอร์ดได้ทันที โมดูลหน่วยความจำแบบนี้มีชื่อเรียกว่า ซิพแรม (SIP RAM : Single In-line Package RAM) แรมชนิดนี้จะมี 30 ขา
การพัฒนายังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพื่อความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น จึงได้มีการออกแบบซ็อกเก็ต สำหรับหน่วยความจำชั่วคราว แบบใหม่ โดยออกแบบในลักษณะคอนเน็กเตอร์ที่ส่วนของลายทองแดงบนแผ่น วงจรของซิพแรมโดยตรง ทำให้สามารถตัดขาที่ยื่นออกมา จากตัวโมดูลได้ ดังนั้นจึงได้มีการตั้งชื่อเรียกใหม่ว่า แบบซิมแรม (SIMM RAM : Single In-line Memory Module RAM) ซิพแรมมีขาต่อใช้งาน 30 ขา เช่นเดียวกับซิมแรม และสัญญาณที่ต่อใช้งานแต่ละขาก็เหมือนกันด้วย
• DIMM หรือ Dual In-line Memory Module
โดย Module นี้เพิ่งจะกำเนิดมาไม่นานนัก มี datapath ถึง 64 บิต โดยทั้งสองด้านของ circuite board จะให้สัญญาณที่ต่างกัน ตั้งแต่ CPU ตระกูล Pentium เป็นต้นมา ได้มีการออกแบบให้ใช้งานกับ datapath ที่มากว่า 32 bit เพราะฉะนั้น เราจึงพบว่าเวลาจะใส่ SIMM RAM บน slot RAM จะต้องใส่เป็นคู่ ใส่โดด ๆ แผง เดียวไม่ได้
Memory Module ปัจจุบันมีอยู่ 3 รูปแบบคือ 30-pin, 72-pin, 168-pin ที่นิยมใช้ในเวลานี้คือ 168-pin
• รายละเอียดของ RAM แต่ละชนิด
Parity จะมีความสามารถในการตรวจสอบความถูกต้องของ ข้อมูล โดยจะมี bit ตรวจสอบ 1 ตัว ถ้าพบว่ามีข้อมูลผิดพลาด ก็จะเกิ system halt ในขณะที่แบบ Non-Parity จะไม่มีการตรวจสอบ bit นี้ Error Cheching and Correcting (ECC) หน่วยความจำแบบนี้ ได้พัฒนาขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เพราะนอกจากจะตรวจสอบว่ามีข้อมูลผิดพลาดได้แล้ว ยังสามารถแก้ไข bit ที่ผิดพลาดได้อีกด้วย โดยไม่ ทำให้ system halt แต่หากมีข้อมูลผิดพลาดมาก ๆ มันก็มี halt ได้เหมือนกัน สำหรับ ECC นี้จะเปลือง overhead เพื่อเก็บข้อมูล มากว่าแบบ Parity ดังนั้น Performance ของมันจึงถูกลดทอนลงไปบ้าง
• ชนิดและความแตกต่างของ RAM
• Dynamic Random Access Memory (DRAM)
DRAM จะทำการเก็บข้อมูลในตัวเก็บประจุ (Capaciter) ซึ่งจำเป็นต้องมีการ refresh เพื่อ เก็บข้อมูล ให้คงอยู่โดยการ refresh นี้ทำให้เกิดการหร่วงเวลาขึ้นในการเข้าถึงข้อมูล และก็เนื่องจากที่มันต้อง refresh ตัวเองอยู่ตลอดเวลานี้เองจึงเป็นเหตุให้ได้ชื่อว่า Dynamic RAM
• Staic Random Access Memory (SRAM)
จะต่างจาก DRAM ตรงที่ว่า DRAM ต้องทำการ refresh ข้อมูลอยู่ตลอดเวลา แต่ในขณะที่ SRAM จะเก็บข้อมูล นั้น ๆ ไว้ และจำไม่ทำการ refresh โดยอัตโนมัติ ซึ่งมันจะทำการ refresh ก็ต่อเมื่อ สั่งให้มัน refresh เท่านั้น ซึ่งข้อดีของมันก็คือความเร็ว ซึ่งเร็วกว่า DRAM ปกติมาก แต่ก็ด้วยราคาที่สูงว่ามาก จึงเป็นข้อด้อยของมัน
• Fast Page Mode DRAM (FPM DRAM)
FPM นั้น ก็เหมือนกับ DRAM เพียงแต่ว่า มันลดช่วงการหน่วงเวลาขณะเข้าถึงข้อมูลลง ทำให้ มันมีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล สูงกว่า DRAM ปกติ ซึ่งโดยที่สัญญาณนาฬิกาในการเข้าถึงข้อมูล จะเป็น 6-3-3-3 (Latency เริ่มต้นที่ 3 clock พร้อมด้วย 3 clock สำหรับการเข้าถึง page) และสำหรับ ระบบแบบ 32 bit จะมีอัตราการส่งถ่ายข้อมูลสูงสุด 100 MB ต่อวินาที ส่วนระบบแบ 64 bit จะมีอัตรา การส่งถ่ายข้อมูลที่ 200 MB ต่อววินาที เช่นกัน ปัจจุบันนี้ RAM ชนิดนี้แทบจะหมดไปจากตลาดแล้วแต่ ยังคงมีให้เห็นบ้าง และมักมีราคา ที่ค่อนข้างแพงเมื่อเที่ยบกับ RAM รุ่นใหม่ ๆ เนื่องจากที่ว่าปริมาณใน ท้องตลาดมีน้อยมาก ทั้ง ๆ ที่ยังมีคนต้องการใช้แรมชนิดนี้อยู่
• Extended-Data Output (EDO) DRAM
หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งก็คือ Hyper-Page Mode DRAM ซึ่งพัฒนาขึ้นอีกระดับหนึ่ง โดยการที่มันจะอ้างอิง ตำแหน่งที่อ่านข้อมูล จากครั้งก่อนไว้ด้วย ปกติแล้วการดึงข้อมูลจาก RAM ณ ตำแหน่งใด ๆ มักจะดึงข้อมูล ณ ตำแหน่งที่อยู่ใกล้ ๆ จากการดึงก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้น ถ้ามีการอ้งอิง ณตำแหน่งเก่าไว้ก่อน ก็จะทำให้ เสียเวลาในการเข้าถึงตำแหน่งน้อยลง และอีกทั้งมันยังลดช่วงเวลาของ CAS latency ลงด้วย และด้วย ความสามารถนี้ ทำให้การเข้าถึงข้อมูลดีขึ้นกว่าเดิมกว่า 40% เลยทีเดียว และมีความสามารถโดยรวมสูงกว่า FPM กว่า 15% EDO จะทำงานได้ดีที่ 66 MHzด้วย timming 5-2-2-2 และก็ยังทำงานได้ดีเช่นกัน แม้จะใช้งานที่ 83 MHz ด้วย Timming นี้และหากว่า chip EDO นี้ มีความเร็วที่สูงมากพอ (มากว่า 50ns) มันจะ สามารถใช้งานได้ ณ 100 MHz ที่ Tomming 6-3-3-3 ได้อย่างสบาย อัตราการส่งถ่ายข้อมูลสูงสุด ของ DRAM ชนิดนี้อยู่ที่ 264 MB ต่อวินาที EDO RAM ในปัจจุบันนี้ไม่เป็นที่นิยมใช้แล้ว
• Burst EDO (BEDO) DRAM
BEDO ได้เพิ่มความสามารถขึ้นมาจาก EDO เดิม คือ Burst Mode โดยหลังจากที่มันได้ address ที่ ต้องการ adress แรกแล้วมันก็จะทำการ generate อีก 3 address ขึ้นทันที ภายใน 1 สํญญาณนาฬิกา ดังนั้น จึงตัดช่วงเวลาในการรับ adress ต่อไป เพราะฉะนั้น Timming ของมันจึงเป็น 5-1-1-1 ณ 66 MHz BEDO ไม่เป็นที่แพร่หลาย และได้รับความนิยมเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เนื่องจากว่าทาง Intel ตัดสินใจใช้ SDRAM แทน EDO และไม่ได่ใช้ BEDO เป็นส่วนประกอบในการพัฒนา chipset ของตน ทำให้บริษัทผู้ผลิต ต่าง ๆ หันมาพัฒนา SDRAM แทน
• Synchronous DRAM (SDRAM) SDRAM
จะต่างจาก DRAM เดิมตรงที่มันจะทำงานสอดคล้งกับสัญญาณนาฬิกา สำหรับ DRAM เดิมจะ ทราบตำแหน่งที่อ่าน ก็ต่อเมื่อเกิดทั้ง RAS และCAS ขึ้น แล้วจึงทำการไปอ่านข้อมูลโดยมีช่วงเวลาในการ เข้าถึงข้อมูล ตามที่เรามักจะได้เห็นบนตัว chip ของตัว RAM เลย เช่น -50, -60, -80 โดย -50 หมายถึง ช่วงเวลาเข้าถึง ใช้เวลา 50 นาโนวินาทีเป็นต้น แต่ว่า SDRAM จะใช้สัญญาณนาฬิกาเป็นตัวกำหนดการ ทำงานโดยจะใช้ความถี่ของสัญญาณเป็นตัวระบุ SDRAM จะทำงานตามสัญญาณนาฬิกาขาขึ้นเพื่อรอรับ ตำแหน่งข้อมูล ที่ต้องการให้มันอ่าน แล้วจากนั้นมันก็จะไปค้นหาให้ และให้ผลลัพธ์ออกมาหลังจากได้รับ ตำแหน่งแล้ว เท่ากับค่าของ CAS เช่น CAS 2 ก็คือ หลังจากรับตำแหน่งที่อ่านแล้วมันจะให้ผลลัพธ์ออกมา ภายใน 2 ลูกของสัญญาณนาฬิกา SDRAM จะมี Timming เป็น 5-1-1-1 ซึ่งแน่ มันเร็วพอ ๆ กันกับ BEDO RAM เลยที่เดียว แต่ว่ามันสามารถทำงานได้ ณ 100 MHz หรือมากว่า และมีอัตราการส่งถ่าย ข้อมูลสูงสุดที่ 528 MB ต่อวินาที
• DDR SDRAM (หรือ SDRAM II)
DDR RAM นี้แยกออกมาจาก SDRAM โดยจุดที่ต่างกันหลัก ๆ ของทั้งสองชนิดนี้คือ DDR SDRAM นี้สามารถที่จะใช้งานได้ทั้งขาขึ้น และขาลง ขแงสัญญาณนาฬิกาเพื่องส่งถ่ายข้อมูล นั่นก็ทำให้อัตราส่งถ่าย เพิ่มขึ้นได้ถึงเท่าตัว ซึ่งมีอัตราการส่งถ่ายข้อมูลสูสุดถึง 1 G ต่อวินาทีเลยทีเดียว
• Rambus DRAM (RDRAM)
ชื่อของ RAMBUS เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัท RAMBUS Inc. ซึ่งตั้งมาตั้งแต่ยุค 80 แล้ว เพราะฉะนั้นชื่อนี้ ก็ไม่ได้เป็นชื่อที่ ใหม่อะไรนัก โดยปัจจุบันได้เอาหลักการของ RAMBUS มาพัฒนาใหม่ โดยการลด pin รวม static buffer และทำการปรับแต่งทาง interface ใหม่ DRAM ชนิดนี้ จะสามารถ ทำงานได้ทั้งขอบขาขึ้น และลงของสัญญาณนาฬิกา และเพียงช่องสัญญาณเดียว ของหน่วยความจำ แบบ RAMBUS นี้ มี Performance มากกว่าเป็น 3 เท่า จาก SDRAM 100 MHz แล้ว และเพียงแค่ช่อง สัญญาณเดียวนี้ก็มีอัตราการส่งถ่ายข้องมูลสูงถึง 1.6 G ต่อวินาที ถึงแม้ว่าเวลาในการเข้าถึงข้อมูลแบบ สุ่มของ RAM ชนิดนี้จะช้า แต่การเข้าถึงข้อมูลแบบต่อเนื่องจะเร็วมาก ๆ ซึ่งกาว่า RDRAM นี้มีการพัฒนา Interface และมี PCB (Printed Circuit Board) ที่ดี ๆ แล้วละก็รวมถึง Controller ของ Interface ให้ สามารถใช้งานได้ถึง 2 ช่องสัญญาณแล้วมันจะมีอัตราการส่งถ่ายข้อมูลเพิ่มเป็น 3.2 G ต่อวินาที และหากว่าสามารถใช้ได้ถึง 4 ช่องสัญญาณก็จะสามารถเพิ่มไปถึง 6.4 G ต่อวินาที
• Synchronous Graphic RAM (SGRAM)
SGRAM นี้ก็แยกออกมาจาก SDRAM เช่นกันโดยมันถูกปรับแต่งมาสำหรับงานด้าน Graphics เป็นพิเศษแต่โดยโครงสร้างของ Hardware แล้ว แทยไม่มีอะไรต่างจาก SDRAM เลย เราจะเห็นจากบาง Graphic Card ที่เป็นรุ่นเดียวกัน แต่ใช้ SDRAM ก็มี SGRAM ก็มี เช่น Matrox G200 แต่จุดที่ต่างกัน ก็คือ ฟังก์ชัน ที่ใช้โดย Page Register ซึ่ง SG สามารถทำการเขียนข้อมูลได้หลาย ๆ ตำแหน่ง ในสัญญาณนาฬิกาเดียว ในจุดนี้ทำให้ความเร็วในการแสดงผล และ Clear Screen ทำได้เร็วมาก และยังสามารถ เขียนแค่ บาง bit ในการ word ได้ (คือไม่ต้องเขียนข้อมูลใหม่ทั้งหมดเขียนเพียงข้อมูลที่เปลี่ยนแปลง เท่านั้น) โดยใช้ bitmask ในการเลือก bit ที่จะเขียนใหม่สำหรับงานโดยปกติแล้ว SGRAM แทบจะไม่ ให้ผลที่ต่างจาก SDRAM เลย มันเหมาะกับงานด้าน Graphics มากกว่า เพราะความสามารถที่ แสดงผลเร็วและ Clear Screen ได้เร็วมันจึงเหมาะกับใช้บน Graphics Card มากกว่า ที่จะใช้บน System
• Video RAM (VRAM)
VRAM ชื่อก็บอกแล้วว่าทำงานเกี่ยวกกับ Video เพราะมันถูกออกแบบมาใช้บน Dispaly Card โดย VRAM นี้ก็มีพื้นฐานมาจาก DRAM เช่นกัน แต่ที่ทำให้มันต่างกันก็ด้วยกลไกการทำงานบางอย่าง ที่เพิ่มเข้ามา โดยที่ VRAM นั้น จะมี serial port พิเศษเพิ่มขึ้นมาอีก 1หรือ 2 port ทำให้เรามองว่ามันเป็น RAM แบบ พอร์ทคู่ (Dual-Port) หรือ ไตรพอร์ท (Triple-Port) Parallel Port ซึ่งเป็น Standard Interface ของมัน จะถูกใช้ในการติดต่อกับ Host Processor เพื่อสั่งการให้ ทำการ refresh ภาพขึ้นมาใหม่ และ Seral Port ที่เพิ่มขึ้นมา จะใช้ในการส่งข้อมูลภาพออกสู่ Display
• Windowns RAM (WRAM)
WRAM นี้ ดู ๆ ไปล้วเหมือนกับว่า ถูกพัฒนาโดย Matrox เพราะแทบจะเป็นผู้เดียวที่ใช้ RAM ชนิดนี้ บน Graphics Card ของตน (card ตระกูล Millenium และ Millenium II แต่ไม่รวม Millenium G200 ซึ่งเป็น ซึ่งใช้ SGRAM ) แต่ในปัจจุบันก็เห็นมีของ Number 9 ที่ใช้ WRAM เช่นกัน ในรุ่น Number 9 Revolutuon IV ที่ใช้ WRAM 8M บน Crad WRAM นี้โดยรวมแล้วก็เหมือน ๆ กับ VRAM จะต่างกันก็ตรงที่ มันรองรับ Bandwith ที่สูงกว่า อีกทั้งยังใช้ระบบ Double-Buffer อีกด้วย จึงทำให้มันเร็วกว่า VRAM อีกมากทีเดียว
DRAM
คือ เมโมรี่แบบธรรมดาที่สุด ซึ่งความเร็วขึ้นอยู่กับค่า Access Time หรือเวลาที่ใช้ในการเอาข้อมูลในตำแหน่งที่เราต้องการออกมาให้ มีค่าอยู่ในระดับนาโนวินาที (ns) ยิ่งน้อยยิ่งดี เช่น ชนิด 60 นาโนวินาที เร็วกว่าชนิด 70 นาโนวินาที เป็นต้น รูปร่างของ DRAM เป็น SIMM 8 บิต (Single-in-line Memory Modules) มี 30 ขา DRAM ย่อมาจาก Dynamic Random Access Memory
Fast Page DRAM
ปกติ แล้วข้อมูลใน DRAM จึงถูกเก็บเป็นชุด ๆ แต่ละชุดเรียกว่า Page ถ้าเป็น Fast Page DRAM จะเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่าปกติสองเท่าถ้าข้อมูลที่เข้าถึงครั้งที่แล้ว เป็นข้อมูลที่อยู่ใน Page เดียวกัน Fast Page DRAM เป็นเมโมรี่ SIMM 32 บิตมี 72ขา (Pentium มีดาต้าบัสกว้าง 64 บิตดังนั้นจึงต้องใส่ SIMM ทีละสองแถวเสมอ)
EDO RAM
EDO Ram นำข้อมูลขึ้นมาเก็บไว้ใน Buffer ด้วย เพื่อว่า ถ้าการขอข้อมูลครั้งต่อไป เป็นข้อมูลในไบต์ถัดไป จะให้เราได้ทันที EDO RAM จึงเร็วกว่า Fast Page DRAM ประมาณ 10 % ทั้งที่มี Access Time เท่ากัน เพราะโอกาสที่เราจะเอาข้อมูลติด ๆกัน มีค่อนข้างสูง EDO มีทั้งแบบ SIMM 32 บิตมี 72 ขา และ DIMM 64 บิตมี 144 ขา คำว่า EDO ย่อมาจาก Extended Data Out
SDRAM
เป็น เมโมรี่แบบใหม่ที่เร็วกว่า EDO ประมาณ 25 % เพราะสามารถเรียกข้อมูลที่ต้องการขึ้นมาได้ทันที โดยที่ไม่ต้องรอให้เวลาผ่านไปเท่ากับ Access Time ก่อน หรือเรียกได้ว่า ไม่มี Wait State นั่นเอง ความเร็วของ SDRAM จึงไม่ดูที่ Access Time อีกต่อไป แต่ดูจากสัญญาณนาฬิกาที่ โปรเซสเซอร์ติดต่อกับ Ram เช่น 66, 100 หรือ 133 MHz เป็นต้น SDRAM เป็นแบบ DIMM 64 บิต มี 168 ขา เวลาซึ้อต้องดูด้วยว่า MHz ตรงกับเครื่องที่เราใช้หรือไม่ SDRAM ย่อมาจาก Sychronous DRAM เพราะทำงาน "sync" กับสัญญาณนาฬิกาบนเมนบอร์ด
SDRAM II (DDR)
DDR (Double Data Rate) SDRAM มีขา 184 ขา มีอัตราการส่งข้อมูลเป็น 2 เท่าของความเร็ว FSB ของตัว RAM คือ มี 2 ทิศทางในการรับส่งข้อมูล และมีความเร็วมากกว่า SDRAM เช่น ความเร็ว 133 MHz คูณ 2 Pipline เท่ากับ 266 MHz
RDRAM
RDRAM หรือที่นิยมเรียกว่า RAMBUS มีขา 184 ขา ทำมาเพื่อให้ใช้กับ Pentium4 โดยเฉพาะ(เคยใช้กับ PentiumIII และ Chipset i820 ของ Intel แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากมีปัญหาเรื่องระบบไฟจึงยกเลิกไป) มีอัตราการส่งข้อมูลเป็น 4 เท่าของความเร็ว FSB ของตัว RAM คือ มี 4 ทิศทางในการรับส่งข้อมูล เช่น RAM มีความเร็ว BUS = 100 MHz คูณกับ 4 pipline จะเท่ากับ 400 MHz เป็นเมโมรี่แบบใหม่ที่มีความเร็วสูงมาก คิดค้นโดยบริษัท Rambus, Inc. จึงเรียกว่า Rambus DRAM หรือ RDRAM อาศัยช่องทางที่แคบ แต่มีแบนด์วิทด์สูงในการส่งข้อมูลไปยังโปรเซสเซอร์ ทำให้ความเร็วในการทำงานสูงกว่า SDRAM เป็นสิบเท่า RDRAM เป็นทางเลือกทางเดียวสำหรับเมนบอร์ดที่เร็วระดับหลายร้อยเมกกะเฮิร์ดซ์ มีแรมอีกชนิดหนึ่งที่ออกมาแข่งกับ RDRAM มีชื่อว่า Synclink DRAM ที่เพิ่มความเร็วของ SDRAM ด้วยการเพิ่มจำนวน bank เป็น 16 banks แทนที่จะเป็นแค่ 4 banks